นายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานกรรมการบริหารสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) กล่าวว่าตามที่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เฉพาะกิจ) ครั้งที่ 1/2557 เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานฯ สภาอุตสาหกรรมฯ โดยสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต หรือ SMI ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาประสานส่งเสริม สนับสนุน และเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ภาคการผลิตเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถทางการแข่งขันอย่างยั่งยืน ได้จัดทำแผนการพัฒนา SMEs โดยกำหนดกรอบทิศทางในการส่งเสริม SMEs เป็น 3 ระยะ ทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว เพื่อนำเสนอต่อ คสช. ให้ผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ ทั้งในกลุ่มที่เป็น SMEs รายใหม่ SMEs ที่กำลังเติบโต รวมถึงกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนหรือกรณีพิเศษ และการเข้าไปมีส่วนในการสร้าง/ส่งเสริมปัจจัยเอื้อต่างๆให้กับ SME ในประเทศ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ SME ที่จะเป็นตัวจักรสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นและเดินหน้าต่อไปได้
นายศักดิ์ชัย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “สภาอุตสาหกรรมฯ ได้จัดประชุมการทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมเมื่อวันที่ 20-21 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการบรรจุวาระเรื่องการส่งเสริมและพัฒนา SMEs เป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญของการจัดทำยุทธศาสตร์ครั้งนี้ ซึ่งสถาบัน SMI เป็นผู้รับผิดชอบหลักและได้ทำการสรุปข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย หรือ Roadmap การพัฒนา SMEs โดยการยกระดับ SMEs เป็นวาระแห่งชาตินั้น เป็นข้อเสนอแรกในแผนระยะสั้นที่สภาอุตสาหกรรมฯ ได้นำเสนอแนะต่อประธาน คสช. รวมถึงการเสนอให้ย้ายสำนักงานส่ง เสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จากกระทรวงอุตสาหกรรม มาสังกัดภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อที่จะสามารถบูรณาการการส่งเสริม SMEs ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และประธาน คสช.ได้ให้การตอบรับเป็นอย่างดีต่อข้อเสนอของสภาอุตสาหกรรมฯ”
Roadmap การพัฒนา SMEs ที่สภาอุตสาหกรรมฯ นำเสนอประกอบด้วยแผนงาน 3 ระยะได้แก่ ระยะสั้น (ภายใน 1 ปี) ระยะกลาง (2-3 ปี) และระยะยาว (3-5 ปี) มีเป้าหมาย ในการเพิ่มรายได้และสัดส่วนใน GDP ของ SMEs ให้ถึง 50% ของ GDP ประเทศ และ ส่งเสริมให้ SMEs ไทยก้าวสู่สากล รวมถึงส่งเสริมการบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อน SMEs เพื่อให้ SMEs ไทยสามารถเติบโตต่อเนื่องได้อย่างยั่งยืนและสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล.