บริษัท ไอซีเว็กซ์ (ICVeX) จำกัด ร่วมกับ หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สหพันธ์หอการค้า และอุตสาหกรรมสหภาพเมียนมาร์ สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารแห่งเมียนมาร์ ร่วมกันจัดงานมหกรรมอาหาร ครบเครื่องเรื่องโรงแรม ร้านอาหาร และการจัดเลี้ยง เมียนมาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ (Myanmar International Food & Beverage) และ เมียนมาร์ โฮเรก้า ( Myanmar Hotel-Restaurant-Catering) ขึ้นเป็นครั้งแรก ในเมียนมาร์ ณ เมียนมาร์ คอนเว็นชั่น เซ็นเตอร์ (MCC) ณ นครย่างกุ้ง ในวันที่ 24-26 กรกฎาคม 2557
น.ส. นุชรินทร์ ภารดีวิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอซีเว็กซ์ จำกัด (ICVeX) กล่าวว่า “จากการเติบโตของประเทศเมียนมาร์อย่างต่อเนื่อง อัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) คาดการณ์โตขึ้นเฉลี่ยถึง 8.9% (ที่มา: Myanmar Business News) ภายหลังจากการเปิดประเทศของเมียนมาร์ ทำให้ทั้งภาครัฐและเอกชนตื่นตัว พร้อมสร้างความเจริญเติบโตให้กับประเทศในทุกๆ มิติ รวมทั้งการลงทุนจากต่างชาติที่เล็งเห็นศักยภาพของเมียนมาร์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น นักลงทุนจาก จีน ไทย ฮ่องกง เกาหลีใต้ อังกฤษ เป็นต้น เมียนมาร์จึงถือเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจอีกมากมาย ไอซีเว็กซ์ (ICVeX) มืออาชีพด้านการจัดงานแฟร์ และเอ็กซิบิชั่น รองรับการขยายตัวของตลาดพม่าที่กำลังเติบโต ตอบโจทย์ความต้องการของนักธุรกิจ ทั้งไทย และต่างประเทศ ที่ต้องการเข้าสู่ตลาดพม่า พร้อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการเป็นสะพานเชื่อมทุกธุรกิจที่ต้องการเข้าสู่ตลาดพม่าอย่างมืออาชีพ ประเดิมด้วยงานแรก งานมหกรรมครบเครื่องเรื่องโรงแรม ร้านอาหาร และการจัดเลี้ยง หรือ เมียนมาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ (Myanmar International Food & Beverage) และ เมียนมาร์ โฮเรก้า ( Myanmar Hotel-Restaurant-Catering) ประจำปี 2557 โดย บริษัท ไอซีเว็กซ์ จำกัด ร่วมกับ หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สหพันธ์หอการค้า และอุตสาหกรรมสหภาพเมียนมาร์ สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารเมียนมาร์ และบริษัท เมียนทาร์ ซีพี ไลฟสต๊อก ร่วมกันจัดงานนิทรรศการอาหารขึ้นเป็นครั้งแรก ในวันที่ 24-26 กรกฎาคม 2557 ณ เมียนมาร์ คอนเว็นชั่น เซ็นเตอร์ (MCC) เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์”
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอซีเว็กซ์ จำกัด (ICVeX) เปิดเผยว่า “งานเทรดแฟร์ ในภาคอุตสาหกรรมอาหารครั้งแรกของเมียนมาร์นี้ มีบริษัท และแบรนด์ชั้นนำต่างๆ กว่า 100 ราย จาก 5 ประเทศทั่วโลก ให้ความสนใจเข้าร่วมงาน โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำของประเทศไทย รวมถึงนักลงทุนจากชาติอื่นๆ อาทิ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น รวมถึงพม่า เข้าร่วมแสดงงาน โดยมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบ รวมถึงส่วนผสมเครื่องปรุงหลากหลายชนิด ซึ่งจะเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ต้องการเข้าไปเปิดตลาดพม่า และยังครอบคลุมถึงการให้บริการด้านอาหาร และเครื่องดื่ม รวมถึงเปิดโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจเฟรนไชส์จากต่างขาติอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการรองรับตลาดจากภาคธุรกิจสู่ธุรกิจ หรือ B to B ที่ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจอาหารในประเทศเมียนมาร์ การจัดงานครั้งนี้ เหมือนกับการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมอาหารจากทั่วทุกมุมโลก ที่กำลังต้องการเปิดตลาดในเมียนมาร์ รวมถึงมองหาสินค้า การบริการใหม่ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารต่างๆ พร้อมกับหาหุ้นส่วนท้องถิ่น ที่พร้อมจะลงทุนในธุรกิจเหล่านี้อีกด้วย”
ไฮไลท์ในงานครั้งนี้ นอกจากผู้ประกอบการ จะได้พบกับผู้ผลิต และผู้ประกอบการ ด้านอาหาร และเครื่องดื่ม จาก 5 ประเทศทั่วโลก รวมถึงแบรนด์ชั้นนำอย่าง ARO กับ M&K บริษัทผู้ผลิตในอุตสาหกรรมโรงแรม ร้านอาหาร และการจัดเลี้ยง (Ho-Re-Ca) อย่าง สยาม แมคโคร (Siam Makro) ศูนย์การค้าขายส่งรายใหญ่ รวมถึงบริษัทอาหาร เครื่องดื่ม ของประเทศไทยกว่า 20 บริษัท ยังมีการแสดงเกี่ยวกับการทำอาหารตลอดงาน อาทิ การสาธิตการทำอาหารเพื่อสุขภาพอย่างมีสไตล์ โดยเชฟชื่อดังจากเมืองไทย ที่คว้ารางวัลจากเวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ การโชว์การทำอาหาร กิจกรรมเวิร์คชอป ทำอาหารฟิวชั่นสไตล์เอเชียน (Asian Fusion Food) และโมเดิร์นสลัด (Modern Salad) จากเชฟไทยที่ได้รับรางวัลอันดับ 1 จาก ‘Gourmand Cook Book Award’ ประเทศสเปน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับผู้เข้าร่วมนิทรรศการตลอด 3 วัน และอีกหนึ่งไฮไลท์ สำหรับธุรกิจประเภทโรงแรม และภัตตาคารต่างๆ คือ การแสดงการจัดดอกกล้วยไม้ประดับ และกล้วยไม้สด จากสวนกล้วยไม้ ภายใต้การดูแลของกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แห่งประเทศไทย ที่มาร่วมแสดงงาน เพื่อเปิดโอกาสในการร่วมทำธุรกิจกับผู้ประกอบการจากนานาชาติ ที่สนใจนำเข้าดอกกล้วยไม้ สำหรับธุรกิจโรงแรม และภัตตาคาร ในประเทศเมียนมาร์
นอกจากนั้น ยังมีการจัดสัมมนาพิเศษ ในหัวข้อ “Beyond Trading – Investment Opportunities in Myanmar Food Industry” โดยหอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกแห่งเมียนมาร์ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรื่องของการลงทุนระหว่างชาติ ในอุตสาหกรรมอาหารของประเทศเมียนมาร์ เพื่อเป็นการกระตุ้นการลงทุนในเมียนมาร์ รวมถึงการจัดสัมมนา ภายใต้หัวข้อ ‘Win-Win Perspective from Food Processors from Thailand’, กรณีศึกษาจากกลุ่มบริษัทผู้ผลิตอาหาร บริษัท ซีพี ประเทศเมียนมาร์ ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในครั้งนี้ด้วย นอกเหนือจากนี้ ยังมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารในประเทศพม่า ตลอดการดำเนินงานนิทรรศการเมียนมาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ (Myanmar International Food & Beverage) และเมียนมาร์ โฮเรก้า (Myanmar Hotel-Restaurant-Catering) ประจำปี 2557 นี้ ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจาก สหพันธ์ หอการค้าและอุตสาหกรรมสหภาพเมียนมาร์ (UMFCCI) และสมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารแห่งเมียนมาร์ (MFPEA) ในระหว่างวันที่ 24-26 กรกฎาคมนี้ ช่วงเวลาตั้งแต่ 09.00น.- 17.00น. (ในวันที่ 26 กรกฎาคม เวลา 16.00น.) ณ เมียนมาร์ คอนเว็นชั่น เซ็นเตอร์ (MCC) การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นอีกโอกาสสำคัญ สำหรับบริษัทผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมอาหารต่างชาติ รวมถึง ผู้ประกอบการในประเทศเมียนมาร์ที่จะมีโอกาสขยายการลงทุน ทั้งผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ และรายย่อย ต่างมองหาช่องทางการตลาด แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นบุกตลาดเมียนมาร์โดยวิธีใด งานแสดงสินค้า หรืองานแฟร์ ถือได้ว่าเป็นอีกช่องทางที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย สำหรับผู้เข้าร่วมงานที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษต่างๆ สามารถลงทะเบียนออนไลน์ และ สอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.myanmarfoodbev.com
น.ส. นุชรินทร์ ภารดีวิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอซีเว็กซ์ จำกัด (ICVeX) กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “นอกจากนี้ ทาง ไอซีเว็กซ์ จะจัด งานมหกรรมที่อยู่อาศัยและของแต่งบ้าน Myanmar Architect & Decor 2014 ในวันที่ 24-26 กันยายนนี้ ณ เมียนมาร์ อีเว้นท์ พาร์ค โดยมีบริษัท ทีทีเอฟ (ผู้จัดงานสถาปนิกสยาม) และกลุ่ม เอส ซี จี ร่วมจัดงานดังกล่าว โดยเป็นการรวมตัวของบริษัทจากนานาประเทศ เข้าร่วมงาน เพื่อนำเสนอ ผลิตภัณฑ์ ที่เกี่ยวกับธุรกิจการก่อสร้าง วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง สินค้าตกแต่ง อาทิ หลังคา กระเบื้อง สุขภัณฑ์ เครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัย ในการก่อสร้าง การออกแบบตกแต่ง รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ และงานระบบภายในอาคาร สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดในเมียนมาร์ขณะนี้ อีกด้วย”