น.ส.เสาวภาคย์ ถนอมศักดิ์กุล ประธานกรรมการบริหาร เอ มัสท์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ภาพรวมของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมาโครงการที่อยู่ในการบริหารดูแล ได้แก่ โครงการ ZENMURA (เซนมูระ) ถนนบางนา-กิ่งแก้ว และโครงการ Lake Nakara (เลค นครา) จ.ขอนแก่น มีการทยอยโอนจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากการที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในสองพื้นที่ทำให้เห็นถึงความแตกต่างด้านความต้องการที่อยู่อาศัยของลูกค้า โดยลูกค้าในกลุ่มกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีความต้องการที่อยู่อาศัย เน้นการเดินทางที่สะดวกสบาย ใกล้ระบบขนส่งมวลชน ส่วนลูกค้าในต่างจังหวัด ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป คนรุ่นใหม่มีการติดตามข่าวสาร ผ่านทาง Social Media มากขึ้น ทำให้เกิดมุมมองใหม่ๆ ของความต้องการที่อยู่อาศัย ที่มีความทันสมัย สอดคล้องกับการใช้ชีวิต โดยอิงกระแสจากคนในเมืองใหญ่ๆ
ดังนั้น เมื่อศึกษาจากฐานลูกค้าที่เข้ามาซื้อบ้านในปัจจุบัน กับกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าในอนาคต พบว่า กลุ่ม Gen Y หรือผู้ที่เกิดในปี 2523-2543 เป็นกลุ่มคนที่โตมากับเครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคที่มีอินเตอร์เน็ตแพร่หลาย จะกลายมาเป็นผู้ที่ขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งคนในกลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับเรื่องราว Social Network จะหันมาสื่อสารแบบภาพ เพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงความหมายหรือเรื่องราวในเวลาอันสั้น รวมถึงให้ความสำคัญกับข้อมูลของสิ่งที่ต้องการบริโภคอย่างแท้จริง ไร้สิ่งฉาบฉวย มีความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม หรือโลกสีเขียวมากขึ้น และนำมาปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาผสานกับภูมิปัญญาเดิมที่มีคุณค่า นอกจากนี้ ความเป็นเมืองจะมีการขยายตัวสู่ภูมิภาคมากขึ้น ผู้คนเลือกหางานและมีรายได้ที่ดีในบ้านเกิดมากกว่าอยู่ในเมืองหลวง ซึ่งจากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า กว่า 23% ของการย้ายถิ่น เป็นการย้ายกลับภูมิลำเนา และกว่า 50%ของการย้ายถิ่นในภาคอีสานเป็นการย้ายจากในตัวเมือง ออกสู่ชานเมือง
ทั้งนี้ ในส่วนของความต้องการที่อยู่อาศัยนั้น ในสังคมต่างจังหวัดกลุ่ม GEN Y จะเป็นกลุ่มที่เลือกและตัดสินใจในการซื้อบ้าน แต่ลักษณะของครอบครัวที่มีขนาดใหญ่มากกว่ากรุงเทพ ความต้องการบ้านจะมีความยืดหยุ่น สำหรับคนหลายช่วงอายุ ฟังก์ชั่นภายในบ้านจะถูกปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการใช้งาน เป็นบ้านที่เหมาะสมกับคนทุกวัย ตัวบ้านทั้งภายในและภายนอก จะถูกเชื่อมโยงกันเป็นพื้นที่กึ่งกลางแจ้ง มีกระจกบานใหญ่ไว้รับแสงธรรมชาติ และสามารถชื่นชมกับสวนภายนอกบ้านได้ รวมถึงการประหยัดพลังงานจนกลายเป็นเรื่องพื้นฐานของบ้าน การออกแบบบ้านที่ประหยัดพลังงานรวมทั้งอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จะได้รับความสนใจอย่างแท้จริงจากฐานข้อมูลที่ได้จะเห็นได้ว่า เทรนด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ สอดคล้องกับโครงการบ้านของบริษัทฯ เป็นอย่างมาก เช่น โครงการ ZENMURA เน้นในเรื่องสวนของคุณต้องทักทายคุณ หรือ โครงการ Lake Nakara บ้านล้อมทะเลสาบ ซึ่งให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ส่วนเรื่องการสื่อสารผ่าน Social Network ที่ผ่านมา บริษัทฯ นำเสนอแบบบ้าน หรือหัวใจหลักของโครงการผ่านทางVDO Presentation บน Social Media เพื่อสร้างกระแสการรับรู้ให้กับกลุ่มลูกค้า เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายและตรงประเด็น
ประธานกรรมการบริหาร กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายต่อไปของบริษัทฯ คือการสร้างบ้านให้กับกลุ่ม GEN Y ซึ่งเป็นกำลังซื้อที่สำคัญในอนาคต โดย Trend Transition สำหรับการเลือกที่อยู่อาศัย จะมีลักษณะนี้ Cool Urban Life กระแสการตอบรับ IT มีมากขึ้น ผู้บริโภคต้องการความเท่ห์ และสะท้อนความต่างอย่างมีรสนิยม Mini Residence ครอบครัวจะเป็นลักษณะ Compact Life มากขึ้น พื้นที่ใช้สอยถูกออกแบบให้ตรงความต้องการ Nature Insight ปรับสมดุลการอยู่อาศัยโดยการใช้ Green Area เป็นสิ่งที่คนถวิลหาอยู่ในใจ Unique Lifestyle ความเป็นปัจเจกบุคคลทำให้การออกแบบต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผลการดำเนินการ ครึ่งปีแรกของบริษัทฯ เป็นไปในทิศทางที่ดี โดยตลาดหลักของบริษัทฯ ยังคงเป็นที่จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากกำลังซื้อมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และแบบบ้านของ Lake Nakara สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ โดยขณะนี้มียอดการโอนไปแล้วกว่า 30% ส่วนโครงการZENMURA ขณะนี้มีการโอนกว่า 70% คาดว่าสิ้นปี 2557 จะมียอดรับรู้รายได้กว่า 1,200 ล้านบาท
และมีการเข้าอยู่อาศัยไปแล้ว ส่วนโครงการใหม่ๆ ในปีนี้ของบริษัทฯ นั้น จากเทรนด์ของ GEN Y ที่เกิดขึ้น การเป็นสังคมเมืองจะไม่ใช่มีแต่เฉพาะที่กรุงเทพฯ อีกต่อไป คนรุ่นใหม่จะกลับถิ่นฐานบ้านเกิด ดังนั้น ชีวิตความเป็นอยู่ ความต้องการสิ่งสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอยจะเป็นสิ่งสำคัญและเป็นโอกาสในการขยายการลงทุนทางธุรกิจของบริษัทฯ ต่อไป