นางสิญจ์พธู หาญวรากิตติ์ กรรมการฝ่ายพัฒนาการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์บริษัท วีเอส09 ออริจินอลเฮิร์บ จำกัด เปิดเผยถึงแผนการขยายตลาดในช่วง 2 ไตรมาสสุดท้ายปีนี้ว่า บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดภายในประเทศที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษเนื่องจากตลาดสบู่มีการแข่งขันสูงที่ผ่านมาจึงได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค และพัฒนาผลิตภัณฑ์สบู่ให้สอดคล้องต้องการของลูกค้า รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์กับผู้ค้าปลีกและค้าส่งทั่วประเทศ นอกจากนี้แล้วยังมุ่งเน้นเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์และการสื่อสารผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อตอกย้ำเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์สบู่วิภาดา จึงทำให้ผลประกอบการในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้สามารถสร้างยอดขายได้ดีเกินกว่าเป้าที่ได้กำหนดเอาไว้
สำหรับการพัฒนาตลาดต่างประเทศนั้น ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้เน้นเปิดตลาดกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาวและกัมพูชา เนื่องจากผู้บริโภคทั้ง 2 ประเทศส่วนใหญ่นิยมซื้อสินค้าจากประเทศไทย และให้ความสนใจสบู่ผสมสมุนไพรวิภาดาค่อนข้างดี เพราะมั่นใจเรื่องคุณภาพที่ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าที่ผลิตจากคู่แข่งประเทศอื่น ๆ และในอนาคตมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังประเทศอื่น ๆ ทั้งเมียนมาร์และเวียดนาม เพราะเป็นตลาดใหม่ที่มีแนวโน้มการบริโภคของประชาชนค่อนข้างดี เนื่องจากมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับคนไทย ที่สำคัญกลุ่มลูกค้าในอาเซียนยังคงเชื่อมันผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย
นางสิญจ์พธูเปิดเผยเพิ่มว่า นอกจากประเทศแถบอินโดจีนแล้วบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการการพัฒนาตลาดในประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน โดยเฉพาะประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ประกอบการจากประเทศดังกล่าวให้ความสนใจนำผลิตภัณฑ์สบู่วิภาดาเข้าไปจำหน่าย บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการขอตราสัญลักษณ์ฮาลาล และในวันนี้ผลิตภัณฑ์สบู่ผสมสมุนไพรวิภาดาได้ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยให้ใช้ตราสัญลักษณ์ฮาลาลเรียบร้อยแล้ว โดยหัวหน้าคณะตรวจฮาลาจังหวัดสมุทรปราการ ได้เข้ามาเยี่ยมชมและตรวจสอบโรงงานผลิตสบู่ เพื่อพิจารณาขั้นตอนและกระบวนการผลิต รวมทั้งวัตถุดิบและส่วนผสมต่าง ๆ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สอดคล้องตามบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม เชื่อว่าตราสัญลักษณ์ดังกล่าวจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นชาวมุสลิมได้เป็นอย่างดี
“ตามที่สบู่วิภาดาได้รับตราสัญลักษณ์ฮาลาลตามมาตรฐานคุณภาพที่คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยกำหนด เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคที่เป็นชาวมุสลิม ไม่ใช่เฉพาะในประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียเท่านั้น เนื่องจากในประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนก็มีลูกค้ากลุ่มดังกล่าวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก บริษัทฯ จึงมีแผนที่จะขยายตลาดสบู่ผสมสมุนไพรไปยังตลาดที่มีผู้บริโภคชาวมุสลิมอย่างจริงจัง หลังจากที่ได้ประสานงานกับกลุ่มผู้ค้าปลีกและค้าส่งในประเทศดังกล่าวถึงเรื่องความปลอดภัยและได้รับตราสัญลักษณ์ฮาลาลเรียบร้อยแล้ว จึงมีกลุ่มทุนจากอินโดนิเซียสั่งซื้อสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าการให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม จะสามารถทำให้ตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้เป็นไปตามหมายที่วางไว้แม้ว่าตลาดจะแข่งขันสูงก็ตาม”นางสิญจ์พธูกล่าว
สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สบู่ หรือต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายสอบถามได้ที่ Call Center098-865-1180