พิณทองทา ชินวัตร คว้าแชมป์สมัยที่ 2 เศรษฐีหุ้นไทย 2005

จันทร์ ๑๙ ธันวาคม ๒๐๐๕ ๐๙:๒๖
กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--การเงินการธนาคาร
วารสารการเงินการธนาคาร ร่วมกับ รองศาสตราจารย์วีรวรรณ พูลพิพัฒน์ รองศาสตราจารย์ สุพพตา ปิยะเกศิน และผู้ช่วยศาสตราจารย์ปรีชา อัศวเดชานุกร อาจารย์ประจำคณะพาณิชย์ศาสตร์ และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการจัดอันดับ 500 เศรษฐีหุ้นไทย ต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้นับเป็นปีที่ 11 แล้ว
สำหรับผลการจัดทำอันดับในวารสารการเงินการธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2548 ปรากฎว่าตำแหน่งเศรษฐีหุ้นไทย 1-5 อันดับแรกในปี 2548 นี้ ยังเป็นของเศรษฐีหุ้นคนเดิม โดยอันดับ 1 ได้แก่ แชมป์เก่า พิณทองทา ชินวัตร ทายาทคนที่ 2 ของนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งครองตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปีนี้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยถือหุ้นรวมมูลค่าทั้งสิ้น 19,188.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 จำนวน 1,085.93 ล้านบาท หรือรวยเพิ่มขึ้น 6.02๔
พิณทองทา ถือหุ้น 2.บริษัทคือ บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น(SHIN) โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นสูงเป็นอันดับ 1 ถึง 14.67% มูลค่า 18,040 ล้านบาท และหุ้นของ บมจ.เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น(SC) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ของตระกูลชินวัตร อีก 28.97% มูลค่า 1,078.69 ล้านบาท
ส่วนอันดับ 2 ยังคงเป็นของ บรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายของ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ซึ่งถือหุ้น SHIN สูงเป็นอันดับ 2 ในสัดส่วน 13.49% มูลค่า 16,581.64 ล้านบาท โดยรวยเพิ่มขึ้น 1,314.40 ล้านบาท หรือ 8.61%
อันดับ 3 ได้แก่ อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ อดีตแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2545 และ 2546 โดยในปีนี้ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 14,903.53 ล้านบาท รวยขึ้นถึง 2,588.69 หรือ 21.02%
ส่วน พานทองแท้ ชินวัตร ครองตำแหน่งเศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ติดต่อกัน 3 ปีแล้ว โดยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ของ SHIN ในสัดส่วน 9.80% รวมมูลค่า 12,051.96 ล้านบาท รวยขึ้น 955.34 ล้านบาท หรือ 8.61%
เศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ยังคงเป็น เปรมชัย กรรณสูต กรรมการผู้จัดการ บมจ.อิตาเลี่ยนไทย ดีเวลลอปเมนต์ เช่นเดียวกับปีที่แล้ว โดยถือหุ้นรวมมูลค่า 8,098.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 514.51 ล้านบาท หรือ 6.78% ได้แก่หุ้น บมจ.อิตาเลี่ยนไทย ดีเวลลอปเมนต์ (ITD) 19.49% และโรงแรมโอเรียลเต็ล(OHTL) 1.70%
สำหรับเศรษฐีอันดับ 6 ในปีนี้ขึ้นมาจากอันดับ 8 ในปีที่แล้ว ได้แก่ นิจพร จรณะจิตต์ พี่สาวของ เปรมชัย กรรณสูต ถือหุ้นมูลค่า 4,380.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 350.85 ล้านบาท หรือ 8.71% ส่วนประวิทย์ มาลีนนท์ แห่งช่อง 3 ยังคงยืนที่อันดับ 7 แต่เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รวยลดลง 708.04 ล้านบาท หรือ 17.22% โดยถือหุ้นรวมมวลค่า 3,403.16 ล้านบาท
ด้าน วิชัย เบญจรงคกุล ขึ้นจากอันดับ 9 มาอยู่อันดับ 8 ในปีนี้ แต่รวยลดลง 354.98 บาท เหลือ 3,388.41 ล้านบาท เศรษฐีหุ้นอันดับ 9 ปีนี้ตกจากอันดับ 6 ในปีที่แล้ว ได้แก่ อากู๋แกรมมี่ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ถือหุ้นรวมมูลค่า 3,352.77 ล้านบาท รวยลดลง 798.28 ล้านบาท หรือ 19.23%
เศรษฐีหุ้นอันดับ 10 และ 11 ก้าวกระโดดขึ้นมาจากปีที่แล้วทั้งคู่ โดย ประยุทธ มหากิจศิริ แห่งเนสกาแฟ ขึ้นจากอันดับ 23 มาอยู่อันดับ 10 ในปีนี้ ด้วยมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นถึง 1,384.96 ล้านบาท หรือ 76.53% รวมมูลค่า 3,194.59 ล้านบาท ส่วนวิกรม กรมดิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชั่น(AMATA) ปีนี้เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 11 รวยขึ้นจากอันดับ 22 ในปีที่แล้ว 758.02 ล้านบาท หรือ 36.49%
สำหรับทายาทคนสุดท้องของท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งถือหุ้น SC ในจำนวนที่เท่ากันกับพิณทองทาพี่สาว 28.97% ปีนี้อันดับร่วงไปอยู่อันดับ 45 เทียบกับปีที่แล้วที่ก้าวเข้ามาติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นอันดับ 28 เป็นปีแรก รวยลดลง 344.07 ล้านบาท หรือ 24.18% เหลือ 1,078.69 ล้านบาท
เช่นเดียวกับ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยาท่านนายกรัฐมนตรี อดีตแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2539, 2541 และ 2542 ที่เพิ่งกลับเข้ามาติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นอีกครั้งเมื่อปีที่ผ่านมาในอันดับ 321 ปีนี้อันดับร่วงลงไปอยู่ที่ 397 ถือหุ้นรวมมูลค่า 116.42 ล้านบาท ลดลง 22.33% ส่วนน้องสาวของท่านนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก้าวขึ้นจากเศรษฐีหุ้นอันดับ 65 มายืนอยู่อันดับ 62 ในปีนี้ รวย 820 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมมูลค่าหุ้นที่เครือญาติในตระกูลชินวัตรถือครองทั้งหมดแล้ว ปีนี้ตระกูลชินวัตรยังคงรักษาแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยไว้ได้เป็นปีที่ 2 โดยถือหุ้น บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) บมจ.เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น(SC) และ บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี(VHB) รวมมูลค่าทั้งทั้งสิ้น 33,199.78 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 1,656.03 ล้านบาท หรือ 5.25%
ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ ตระกูลอัศวโภคิน ขยับขึ้นมาจากอันดับ 4 ในปีที่แล้ว โดยถือหุ้นรวมกัน คิดเป็นมูลค่า 17,017.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,465.26 ล้านบาท หรือ 16.94% อันดับ 3 ปีนี้ตกลงจากอันดับ 2 เมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ตระกูลมาลีนนท์ แห่งช่อง 3 รวย 16,880.71 ล้านบาท ลดลง 3,705.12 ล้านบาท หรือ 18% ด้านตระกูลดามาพงศ์ ตกจากอันดับ 3 มาอยู่อันดับ 4 ในปีนี้ รวย 16,581.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,314.40 ล้านบาท หรือ 8.61%
สำหรับตระกูลจิราธิวัฒน์ ที่มีทายาทเข้าแถวมาติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นมากที่สุดถึง 17 คน ปีนี้ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 จากอันดับ 6 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือหุ้นรวมกันคิดเป็นมูลค่า 15,074.14 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้นถึง 7,752.04 ล้านบาท หรือ 105.87%--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ