บมจ.ณุศาศิริ และโรงเรียนนานาชาตินอริชเปิดบ้านแนะแนวการศึกษา

คุณลินดา เมฆดารา กรรมการบริหาร โรงเรียนนานาชาตินอริช เปิดเผยว่า โรงเรียนจะเริ่มเปิดการเรียนการสอนในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยในปีการศึกษาแรกจะเปิดสอนตั้งแต่ชั้นเนอสเซอรี่ จนถึง Year 3 (ป. 2) และจะขยายการเรียนการสอนไปถึงระดับชั้น Year 13 (ม.6) ในปี 2559 โดยการเรียนการสอนในทุกระดับชั้นได้เลือกใช้หลักสูตรที่ดีที่สุด ประกอบด้วยหลักสูตรการเรียนจากประเทศอังกฤษ (British Curriculum) หลักสูตรพัฒนาสมอง และพุทธวจน ซึ่งมั่นใจว่า 3 สิ่งนี้จะทำให้นักเรียนเติบโตเป็นเด็กที่เก่งด้านวิชาการ มีสมองที่ชาญฉลาด คือ ฉลาดในความคิด ฉลาดในอารมณ์ ฉลาดในการแสดงออก และเป็นคนดีของสังคม

นอกจากนี้โรงเรียนนานาชาตินอริช พระราม 2 ยังมุ่งเน้นการใช้บุคลากรที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างมาตรฐานการเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบให้กับนักเรียน พัฒนากระบวนการความคิด การแก้ปัญหา โดยคณาจารย์ของโรงเรียนทุกท่านเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านการสอน ผ่านมาตรฐาน PGCE จากประเทศอังกฤษ

คุณศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) (NUSA) เปิดเผยว่า โรงเรียนนานาชาติ นอริช พระราม2 ปัจจุบันการก่อสร้างโรงเรียนเฟสแรกบนพื้นที่ 6 ไร่ มูลค่าการลงทุนประมาณ 320 ล้านบาท เหลือเพียงแค่การตกแต่งภายใน ตลอดจนติดตั้งอุปกรณ์การเรียนการสอนให้มีความครบถ้วนแล้วก็จะเป็นโรงเรียนที่มีความสมบูรณ์แบบระดับชั้นนำของประเทศ

ทั้งนี้โรงเรียนนานาชาตินอริช พระราม 2 เฟสแรกจะสามารถรองรับเด็กนักเรียนได้จำนวนประมาณ 200 คน ขณะที่รูปแบบสถาปัตยกรรมของโรงเรียนเป็นการผสมผสานแนวคิดการออกแบบระหว่าง ทัสคานี สไตล์กับคอนเทมโพลารีสไตล์ เน้นบรรยากาศที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ปลอดโปร่ง ปลอดภัย เพื่อส่งเสริมบรรยากาศการเรียนรู้ที่ดีให้กับนักเรียนในทุกระดับชั้น โดยอาคารประกอบด้วย ห้องเรียนจำนวน 12 ห้อง ห้องสมุดและสื่อการสอนสมัยใหม่ 2 ห้อง ห้องเรียนศิลปะและบัลเลย์ สระว่ายน้ำ สวนน้ำและอุปกรณ์เครื่องเล่นกลางแจ้ง

“เรามีแผนขยายโรงเรียนนานาชาตินอริชออกไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รองรับนักเรียนได้ถึงระดับมัธยมศึกษา โดยเฟส 2 จะแล้วเสร็จภายในปี 2559 ใช้งบประมาณลงทุนเพิ่มเติมอีกประมาณ 200 ล้านบาท ทั้งนี้การมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนนานาชาตินอริช ศูนย์สุขภาพ คอมมูนิตี้ มอลล์ NUSA AVENUE ฯลฯ ตั้งอยู่ใน “โครงการณุศาศิริ ซิตี้ พระราม 2” ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างคุณภาพชีวิต สังคมที่สมบูรณ์แบบให้กับเยาวชน ลูกบ้าน และชุมชนในละแวกพระราม 2 อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้โครงการมีความสมบูรณ์แบบที่สุดในย่านนี้ด้วยเช่นกัน” ศิริญา กล่าว