นายสุรัตน์ลีลาทวีวัฒน์รักษาการกรรมการผู้จัดการบริษัทลีสซิ่งกสิกรไทยจำกัดเปิดเผยว่า จากปัญหาภาพรวมเศรษฐกิจที่ซบเซา และปัญหาการเมืองในประเทศในช่วงที่ผ่านมาทำให้ผู้บริโภคชะลอการบริโภคลง ทำให้ตลาดรถยนต์อยู่ในภาวะซบเซา ยอดขายรถยนต์ได้รับผลกระทบที่รุนแรงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้อย่างมาก ซึ่งก็ส่งผลต่อการปล่อยสินเชื่อของธุรกิจลีสซิ่งโดยรวมด้วย
ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรก 2557 บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด สามารถปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์ใหม่ได้ 29,309 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 22.38% แบ่งเป็นสินเชื่อใหม่เช่าซื้อและลีสซิ่ง 16,501 ล้านบาท ลดลง 11.34% และสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ 12,808 ล้านบาท ลดลง 33.12% สำหรับยอดสินเชื่อคงค้าง (Outstanding Loan) มียอดรวม 88,059 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 3.67%และสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 1.00% ส่งผลให้บริษัทมีกำไร 247 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
สำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 มียอดจำหน่ายรถยนต์อยู่ที่ 440,911 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน 40.5% โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ช่วงครึ่งปีแรกยอดขายรถยนต์ลดลงมาจากผลจากโครงการรถยนต์คันแรกที่สิ้นสุดลง สภาพเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ปัญหาหนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น รวมถึงประเด็นด้านการเมืองที่มีความไม่แน่นอนสูง
ขณะที่ตลาดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ พบว่า ยังเป็นตลาดที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 มียอดตัวเลขจดทะเบียนอยู่ที่ประมาณ 7,150 คัน เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ น่าจะมียอดจดทะเบียน 15,000 คัน หรือเติบโตขึ้นราว 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน
นายสุรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในครึ่งปีหลัง 2557 มีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจากหลายองค์ประกอบซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนตลาดรถยนต์ในประเทศในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ให้มีทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้นจากช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ โดยอัตราการหดตัวของยอดขายรถยนต์มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากช่วงไตรมาสที่ 1 ที่หดตัวสูงถึง 45.7% และไตรมาสที่ 2 หดตัวอยู่ในระดับที่ 30% มาเหลือหดตัวอยู่ในระดับ 20% ไตรมาสที่ 3 และระดับ 10% ในไตรมาสที่ 4 ตามลำดับ
KLeasing2014Q2
ทั้งนี้สาเหตุสำคัญมาจากสถานการณ์การเมืองในประเทศเริ่มมีทิศทางที่มีเสถียรภาพมากขึ้น โครงการหลายอย่างของภาครัฐที่เคยหยุดชะงัก สามารถดำเนินต่อได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว การดูแลเรื่องค่าครองชีพของประชาชน ทำให้ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มกลับฟื้นคืนมา ขณะที่การพิจารณาดำเนินโครงการก่อสร้างพื้นฐานต่าง ๆ มีความคืบหน้ามากขึ้น และการลงทุนของภาคเอกชนที่ขยับขยายได้มากขึ้นหลังมีการตั้งบอร์ดบีโอไอ และเริ่มพิจารณาอนุมัติโครงการต่าง ๆ ที่ค้างอยู่นั้น ก็เป็นอีกตัวเร่งหนึ่งที่ทำให้ความต้องการใช้รถยนต์ โดยเฉพาะรถเพื่อการพาณิชย์ปรับเพิ่มขึ้น
ในขณะที่ตลาดรถแลกเงินมีทิศทางปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2557 ซึ่งขยายตัวประมาณ 20.8% เมื่อเทียบกับการขยายตัวที่ชะลอลงสู่ระดับ 12.5% ในปี 2556 อย่างไรก็ตามในไตรมาสที่ 2 ปี 2557 อาจจะเห็นการชะลอตัวลงอีกครั้ง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานเปรียบเทียบ แต่คาดว่าช่วงครึ่งปีหลังการเติบโตของสินเชื่อในตลาดรถแลกเงินน่าจะค่อยปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น และคาดว่าปี 2557 น่าจะปิดตลาดด้วยอัตราการเติบโตประมาณ 14-17% ซึ่งเป็นเพราะความต้องการสินเชื่อรายย่อยที่ยังคงมีอยู่ ประกอบกับการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบจากสถาบันการเงินในระบบธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนดีใกล้เคียงกับตลาดรถยนต์มือสอง อีกทั้งการรุกตลาดสินเชื่อดังกล่าวยังเป็นการขยายฐานลูกค้าออกไปอีกด้วย
นายสุรัตน์ เปิดเผยว่า บริษัทลีสซิ่งกสิกรไทยจำกัดเตรียมความพร้อมสำหรับแคมเปญพิเศษสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์กสิกรไทย รถใหม่ป้ายแดง และสินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย มอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเป็นพันธมิตรด้านการให้บริการด้านการเงินและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อย่างครบวงจร ในงาน Big Motor Sale 2014 มหกรรมยานยนต์เพื่อขายใหญ่ที่สุดในอาเซียนที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนาในเดือนสิงหาคมนี้