รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล นักวิชาการประจำกลุ่มวิชาโภชนาการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ผลการสำรวจภาวะอาหารและโภชนาการ ของกระทรวงสาธารณสุข พศ. 2546 พบว่าแม่ไทยในระยะให้นมบุตรมีความเสี่ยงได้รับสารอาหารสำคัญบางชนิด ไม่ถึง 40% ของที่ร่างกายต้องการต่อวัน เช่น แคลเซียม วิตามินเอ และวิตามินซี เพราะแม่ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ว่าตนเองยังต้องได้รับสารอาหารเหล่านี้เทียบเท่าหรือมากกว่ากับตอนตั้งครรภ์ ผลที่อาจตามมาคือปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ตะคริว ผิวหนังแห้งเป็นสะเก็ด เหน็บชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น โลหิตจาง และกระดูกพรุนในอนาคต ด้วยเหตุนี้การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับแม่ในช่วงให้นมบุตรโดยเฉพาะจึงเป็นเรื่องจำเป็น”
จากสถานการณ์ดังกล่าว นางสาวเรืองรัตน์ ว่องสุวรรณเลิศ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ดูเม็กซ์ จำกัด กล่าวว่า “ดูเม็กซ์ โดยสถาบันวิจัยนิวทริเซีย สถาบันวิจัยโภชนาการระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการสำหรับช่วงแรกเริ่มของชีวิต ที่พร้อมจะยืนเคียงข้างคุณแม่ในเรื่องโภชนาการ จึงได้คิดค้นและพัฒนา “มาม่า เบรส-ฟีดดิ้ง พรีไบโอโพรเทก” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์นมสำหรับแม่ให้นมบุตรโดยเฉพาะรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่พัฒนาโภชนาการให้มีชนิดและปริมาณของสารอาหารที่เหมาะสมสำหรับแม่ระยะให้นมบุตรโดยเฉพาะ โดยเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์นี้จะเป็นทางเลือกที่สะดวกและช่วยลดปัญหาการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอในแม่กลุ่มนี้ได้ นอกจากนี้บริษัทฯ ได้จัดโครงการ “มาม่า พรีไบโอโพรเทก พื้นฐานที่ดีเริ่มต้นจากคุณแม่” เพื่อสนับสนุนแม่ตั้งครรภ์และแม่หลังคลอดดูแลตัวเองอย่างถูกต้องทั้งกายใจ เพื่อความสำเร็จในการเลี้ยงดูลูก”
ในงานเปิดตัวโครงการฯ พญ. สุภาพรรณ ตันตราชีวธร รองหัวหน้าภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล กล่าวว่า “นอกจากความรู้เรื่องโภชนาการที่เหมาะกับแม่แต่ละช่วงแล้ว คุณแม่ก็ควรที่จะรู้จักและเข้าใจภาวะทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจของตัวเองอย่างดีด้วยโดยเฉพาะในช่วงให้นม เช่น ความกังวลในเรื่องไม่มีนมให้ลูกกิน แม่มือใหม่มักกังวลว่าน้ำนมจะไม่พอ ทำให้เครียด นอนไม่หลับ ร่างกายทรุดโทรม ซึ่งที่จริงแล้วธรรมชาติได้สร้างให้แม่ทุกคนที่สุขภาพดี มีน้ำนมเพียงพอให้ลูกเสมอ มีข้อบ่งชี้หลายอย่างที่แม่จะสังเกตได้เองง่ายๆว่าน้ำนมเพียงพอแล้ว เช่น 1) ขณะลูกดูดนมข้างหนึ่ง แล้วมีน้ำนมไหลออกจากหัวนมอีกข้างหนึ่งด้วย 2) ลูกหลับสบายไม่ร้องกวนหลังกินนมแม่ 3) ปริมาณและความถี่ในการปัสสาวะของเด็กทุก 2-3 ชั่วโมง 4) ขับถ่ายดี อุจจาระเป็นสีเหลือง 5) น้ำหนักลูกขึ้นดีตามเกณฑ์”
พญ.สุภาพรรณกล่าวเพิ่มเติมว่า “อีกเรื่องที่คุณแม่มักจะกังวล ก็คือเรื่องน้ำหนักตัวหลังคลอด ซึ่งจริงๆแล้วคุณแม่ไม่ต้องกังวลเลย เพราะการให้นมบุตรจะแม่ต้องใช้พลังงานถึง 500 แคลอรีต่อวันในการสร้างน้ำนมให้ลูก น้ำหนักแม่จะลดลงอย่างต่อเนื่องจนกลับสู่สภาพปกติภายในไม่นาน”
ภายในงานยังได้มีคุณแม่พิธีกรมากความสามารถเปิ้ล-จริยดี สเปนเซอร์ ซึ่งกำลังตั้งครรภ์และมีข้อแนะนำเรื่องการแต่งกายสำหรับบรรดาคุณแม่ว่า “เมื่อตั้งครรภ์หรือคลอดลูกใหม่ๆ รูปร่างของผู้หญิงย่อมเปลี่ยนไป แต่ผู้หญิงเราก็อย่าหยุดสวย เพราะมันส่งผลต่อจิตใจ เพียงแต่เราต้องเลือกแต่งกายให้เหมาะสมสวยงาม สอดคล้องกับสรีระของเราที่เปลี่ยนไป ช่วงตั้งครรภ์ก็เลือกที่ใส่แล้วสบาย ไม่อึดอัด จะเป็นลวดลายเท่ๆ หรือสีสันก็จะช่วยให้คุณแม่ดูสดใสขึ้น ส่วนรองเท้าก็หาแบบส้นเตี้ยสวยๆ เลือกที่พื้นยึดเกาะพื้นได้ดี เพื่อการทรงตัวที่ดี ส่วนช่วงให้นมลูกก็แนะให้เลือกเสื้อผ้าแบบเปิดให้นมลูกได้สะดวก สีโทนเข้ม กระโปรงทรงเอขนาดพอดี กางเกงขากว้าง สวมเสื้อเชิ้ตหรือเดรสยาวคลุมพอดีตัวก็ช่วยพรางรูปร่างหลังคลอดได้คะ”
ส่วนแบม-จณิสตา จรูญสมิทธิ์ คุณแม่คนสวยเชี่ยวชาญด้านอาหาร ก็มาแนะนำเมนูใหม่ๆ ได้ประโยชน์สำหรับคุณแม่ “เมนูแรกคือ แอปเปิ้ล จินเจอร์ มัฟฟิน โลว์แฟ็ต (Apple Ginger Muffin Low fat) หอมอร่อยกับแอ๊ปเปิ้ลผสมขิงซึ่งจะช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ช่วยให้เจริญอาหาร และเชื่อว่าช่วยให้โลหิตหมุนเวียนดีและช่วยขับน้ำนม อีกเมนูคือ พานาคอตต้า (Panna Cotta) ที่มีส่วนผสมของนมจากมาม่า พรีไบโอโพรเทก ที่จะช่วยให้สารอาหารสำคัญสำหรับคุณแม่ทั้งแคลเซียม โฟเลต เหล็ก วิตามินเอ บี12 และยังท้อปปิ้งด้วยผลไม้ต่างๆ ช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพแข็งแรง พร้อมที่จะเลี้ยงดูลูกให้ประสบความสำเร็จดั่งหวัง”
คุณแม่ให้นมบุตรและคุณแม่ตั้งครรภ์ เข้าไปติดตามข้อมูลข่าวสารและร่วมกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ http://www.hiqkidsclub.com/StartWithMom และ Nutricia Hi-Q Kids Careline โทร. 02-740-3333
ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาครบวงจรตลอด 24 ชั่วโมง