กรมอนามัย จับมือภาคีเครือข่ายองค์กรรณรงค์

พฤหัส ๓๑ กรกฎาคม ๒๐๑๔ ๑๕:๒๔
ชวนคนไทย “Kick off ลด ละ เลิก การใช้ภาชนะโฟม ทั่วไทย” ขับเคลื่อนแนวคิดภาชนะใส่อาหารปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสมาคมสร้างสรรค์ไทย(ตาวิเศษ) และบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม(เกรซ) เปิดตัวโครงการรณรงค์ “Kick off ลด ละ เลิก การใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร ทั่วไทย’ เพี่อให้ความรู้ที่ถูกต้องกับประชาชน ในการตระหนักถึงอันตรายจากการใช้บรรจุภัณฑ์โฟมที่มีส่วนก่อให้เกิดโรคมะเร็ง!!

นายแพทย์จิรเจษฎ์ สุขสุเพิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลจุฬารัตน์ ๙ กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยมีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โดยสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งมาจากหลายปัยจัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาพแวดล้อม การเลือกรับประทานอาหาร และจากการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์สารพิษที่ปนเปื้อนออกมาจากภาชนะเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญ และไม่รู้ตัวว่าได้บริโภคสารพิษที่ปนเปื้อนออกมาจากภาชนะบรรจุอาหารโดยเฉพาะโฟม และมีการสะสมของสารพิษต่างๆแต่ละชนิดในร่างกาย อย่างการใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหารร้อนและมันก็จะมีสาร “สไตรีน”ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งปนเปื้อนออกมาเป็นจำนวนมากและจากสถิติทางการแพทย์พบว่ามะเร็งที่พบมากในผู้ชายได้แก่ มะเร็งตับ ปอด ลำไส้และทวารหนัก ต่อมลูกหมากและมะเร็งเม็ดเลือดขาว ผู้หญิง ได้แก่ มะเร็งเต้านม ตับ ปากมดลูก ปอดลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ดังนั้นการรับประทานอาหารจากโฟมต่อเนื่องกันเป็นประจำทุกวันและเป็นระยะเวลานานจะทำให้เกิดการสะสมของสารพิษ จึงเป็นปัจจัยลำดับต้นที่ทำให้คนไทยเสี่ยงต่อการป่วยเป็นมะเร็งมากกว่าปกติถึง 6 เท่า เลยทีเดียว

ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า กิจกรรมโครงการรณรงค์ ลด ละ เลิก การใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร เริ่มต้นจาก หนังสือสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ ด่วนมาก นร ๐๕๐๕/ว(ล) ๒๓๘๘๙ ลงวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๖ เรื่อง ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง การจัดการอันตรายจากโฟมที่ใช้สำหรับภาชนะบรรจุอาหาร โดยให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานนำร่องในการเลิกใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหารร้อนหรือมีไขมันเพื่อเป็นตัวอย่างให้ส่วนราชการอื่น – ประชาชน ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้มอบให้กรมอนามัยรับผิดชอบดำเนินการรณรงค์ฯ และทางกรมเองก็ได้เริ่มโครงการโดยดำเนินการสำรวจสถานการณ์การใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทโฟม ในโรงอาหารและตลาดนัดภายในกระทรวงสาธารณสุข พบว่าปัจจุบันพ่อค้าแม่ค้าอาหารตามสั่ง อาหารสำเร็จรูปนิยมใช่กล่องโฟมบรรจุอาหาร กันอย่างแพร่หลายเพราะมีความสะดวก รวดเร็ว โดยเฉพาะการนำภาชนะโฟมมาบรรจุอาหารร้อน ซึ่งส่งผลให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค กรมอนามัย

ทั้งนี้สำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลโครงการ ดำเนินการสำรวจสถานการณ์การใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทโฟม ในโรงอาหารและตลาดนัดภายในกระทรวงสาธารณสุข โดยดำเนินการสำรวจตั้งแต่วันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๖ ถึง วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ พบว่า ภายในโรงอาหารและตลาดนัดมีร้านจำหน่ายอาหารจำนวน ๓๑๑ ร้าน พบว่าจำนวน ๑๐๖ ร้าน คิดเป็นร้อยละ ๓๔.๐๘ ใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทโฟม ซึ่งสามารถจำแนกได้ดังนี้ คือ ใช้บรรจุอาหารในขณะร้อน ร้อยละ ๔๑.๕๑ และบรรจุอาหารในขณะเย็น ร้อยละ ๕๘.๔๙ โดยส่วนใหญ่ผู้ประกอบการใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทกล่องร้อยละ ๕๓.๕๐ รองลงมาคือ ประเภทถ้วยร้อยละ ๓๒.๔๖และถาด ร้อยละ ๑๔.๐๔ทั้งนี้ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทโฟมนั้นมาจาก มีความสะดวก ราคาถูก และหาซื้อง่ายปัจจุบันด้านความรู้ ทัศนคติของผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ต่อการใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทโฟมยังไม่ได้รับการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน แต่หลังจากที่กรมฯ มีการอบรมให้ความรู้แล้วผู้ประกอบการมีความตระหนักถึงอันตรายจากโฟมที่มีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ โครงการรณรงค์ภายในกระทรวงประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และผู้ประกอบการโดยส่วนใหญ่ ยินดีให้ความร่วมมือในการเลิกใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทโฟม แต่ก็มีข้อเสนอในประเด็นอื่นตามมา กรณีที่ให้มีการเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทอื่น เช่นใบตอง บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ชานอ้อย) กล่องกระดาษ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรหาทางเลือกหรือช่องทางให้แก่ผู้ประกอบการ เช่น ราคาของบรรจุภัณฑ์ควรถูกกว่าท้องตลาด และเป็นราคาที่เหมาะสมกับราคาอาหารที่จำหน่าย ดร.นพ.พรเทพ กล่าว

ดร.นพ.พรเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามการขับเคลื่อนโครงการรณรงค์ลด ละ เลิก การใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหารภายในกระทรวงที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีนั้นเกิดจากความร่วมมือ ของผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้บริโภค และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ปัญหา โดยมุ่งหวังให้เกิดความยั่งยืนและได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากบรรจุภัณฑ์ย่อยสลายง่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ ปรับราคาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม เพื่อสนับสนุนให้การรณรงค์มีภาชนะทางเลือกที่พ่อค้าแม่ค้าผู้ประกอบการสามารถซื้อได้สะดวก และราคาถูกลง

ด้านนายแพทย์วีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด(มหาชน) กล่าวเสริมว่า การหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ภาชีวะจากเยื่อพืชธรรมชาติ เป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และราคาของบรรจุภัณฑ์ โดยทางบริษัทบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม (ผลิตภัณฑ์แบรนด์เกรซ) ได้ตระหนักถึงความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องดังกล่าว จึงได้มีการคิดค้น และผลิตภาชนะบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ “เกรซ ซิมเปิ้ล” ที่มาจากเยื่อชานอ้อยผสมกับเยื่อไผ่ ซึ่ง ผลิตภัณฑ์จากเยื่อพีชธรรมชาติ 100% จึงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอนและราคาของสินค้ายังถูกลงกว่า เดิมถึง 50% ทั้งนี้ก็เพื่อร่วมมือ ช่วยเหลือทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ตอบรับกระแสรณรงค์ ตามนโยบายระดับชาติ

ด้านนาย สินชัย เทียนศิริ เลขานุการสมาคมสร้างสรรค์ไทย(ตาวิเศษ)ตาวิเศษ กล่าวว่า ได้มีการรณรงค์ให้มีการเลิกใช้โฟม มาตั้งแต่ปี 2536 โดยเริ่มจากกลุ่มที่เป็นของใช้ในชีวิตประจำวันก่อน และที่เห็นผลชัดเจนมากคือ การเลิกใช้โฟมในการทำพวงหรีด โดยให้มีการใช้วัสดุอื่นทดแทน และหลังจากการรณรงค์ในช่วงนั้นจนถึงปัจจุบันจะเห็นว่า มีการเปลี่ยนวัสดุในการทำพวงหรีด โดยเลิกใช้โฟม เกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์

นับว่าเป็นการรณรงค์โครงการรณรงค์ “Kick off ลด ละ เลิก การใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหารทั่วไทย” ต่อยอดกับสิ่งที่ได้ทำอยู่ ทั้งนี้แนวทางในการรณรงค์ ในอนาคตข้างหน้าของตาวิเศษ ก็จะเริ่มต้นจาก ภาคี เครื่อข่าย สมาชิกของตาวิเศษ และจะมีการจับมือร่วมกับห้างสรรสินค้าต่างๆ ในการลด ละ เลิก การใช้โฟมในการบรรจุอาหารเพื่อเป็นต้นแบบให้กับร้านอาหารภายนอกห้างต่อไป นาย สินชัย กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO