ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน)หรือสมศ.กล่าวถึงความสำเร็จของ“โครงการ 1 ช่วย 9” ที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเอกชนธุรกิจพลังงานและกลุ่มธนาคาร ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC และกลุ่มธนาคารทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาและธนาคารธนชาต ได้ร่วมกันฉลองความสำเร็จในการทำประโยชน์คืนสู่สังคมโดยการสนับสนุนทุนโรงเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาผ่านโครงการ “1 ช่วย 9” ซึ่งเป็นโครงการของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ (สมศ.) ในการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและหน่วยงานเอกชน เพื่อช่วยพัฒนายกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนต่าง ๆ
“ความสำเร็จของโครงการ “1 ช่วย 9” ได้ดำเนินการจนถึงปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 4 โดยเริ่มครั้งแรกปี พ.ศ.2554 ได้เชิญชวนสถานศึกษาที่มีผลการประเมินคุณภาพระดับดีมากสมัครเข้าร่วมเป็นแกนนำ เพื่อช่วยพัฒนาโรงเรียนที่มีผลการประเมินคุณภาพตั้งแต่ระดับดีลงมา ให้มีผลการการประเมินคุณภาพที่ดีขึ้น ล่าสุด สมศ. ได้รับความร่วมมือกับภาคเอกชนอีก 8 แห่ง ได้แก่ 1.บริษัท แพรนดา จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด 3. กลุ่มบริษัทไมเนอร์ กรุ๊ป 4. บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) 5.มูลนิธิ SCG 6.มูลนิธิสยามกัมมาจล 7. มูลนิธิดำรงชัยธรรม 8. บริษัท ดับบลิวซีเอสซันชิโร่ (ประเทศไทย) จำกัด มาเข้าร่วมโดย สมศ. คาดหวังให้เกิดความร่วมมือช่วยเหลือสถานศึกษาให้ทั่วถึงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ดังนั้นในอนาคตอันใกล้จะขยายความร่วมมือไปสู่หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน มาร่วมกันพัฒนาโครงการนี้ให้สัมฤทธิ์ผลมากขึ้น โดยวางแผนให้หน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาดูแลช่วยเหลือสถานศึกษาที่ตั้งอยู่บริเวณรอบ ๆ หรือใกล้กับหน่วยงานนั้น ๆ จะทำให้เกิดผลกระทบที่ดีมากต่อการขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาได้อย่างรวดเร็วขึ้น เนื่องจากรากฐานของการศึกษาเนื้อแท้ คือการให้ หากทุกหน่วยงานได้ให้การศึกษาที่ดีมีคุณภาพกับชุมชน จะทำให้เกิดสังคมโดยรอบในชุมชนมีคุณภาพไปด้วย”
อย่างไรก็ตาม แนวคิดหลักของโครงการ“1 ช่วย 9” มาจากพื้นฐานวัฒนธรรมไทยจากความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จึงใช้ฐานการคิดนี้ขยายสู่การสร้างความร่วมมือสถานศึกษาที่ไม่ผ่านการประเมิน จะช่วยให้เกิดผลสำเร็จได้ในลักษณะพี่ช่วยน้อง เพื่อนช่วยเพื่อนคนพร้อมมากกว่าช่วยคนพร้อมน้อยกว่า โดยชักชวนสถานศึกษาที่มีผลการประเมินในระดับคุณภาพดีมาก สมัครเข้ามาช่วยเหลือสถานศึกษาที่ไม่ผ่านการประเมินในรูปแบบจิตอาสา โดยไม่มีงบประมาณสนับสนุนจากทางภาครัฐหรือสมศ.(Zero Budget) เพราะฉะนั้นสถานศึกษาที่เป็นแกนนำที่สมัครเข้ามาเป็นสถานศึกษาแกนนำ หรือเป็น 1 ต้องมีความพร้อมในหลายด้าน เป้าหมายคือ ช่วยเหลือให้สถานศึกษาทั้ง 9 แห่ง มีผลการประเมินคุณภาพภายนอกดีขึ้น ความช่วยเหลือไม่จำกัดเรื่อง ไม่จำกัดเงื่อนไข ไม่จำกัดพื้นที่สามารถช่วยเหลือต่างระดับ ต่างพื้นที่กันก็ได้
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไออาร์พีซีได้เข้าร่วมโครงการ “1 ช่วย 9” ของสมศ. ในปี 2557 ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานของภาคเอกชน ที่ต่างมีภารกิจสนุบสนุนโรงเรียน 9 แห่ง ให้มีมาตรฐานการศึกษาดีขึ้นตามเกณฑ์ของ สมศ. โดยใช้ศักยภาพของพนักงานและองค์ความรู้ของไออาร์พีซี ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของบริษัทฯ และกลุ่ม ปตท. ในการดำเนินธุรกิจอย่างไม่โปร่งใสบนพื้นฐานของการพัฒนาช่วยเหลือและรับผิดชอบต่อสังคมในมิติต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา
สำหรับโรงเรียนในโครงการ “1 ช่วย 9” ที่อยู่ในเครือข่ายที่ไออาร์พีซีดูแลในขั้นเริ่มต้น มี 5 แห่ง ประกอบด้วย รร.กัลยวิทย์ รร.ฤทธิไกรศึกษา รร.แย้มสอาด รร.เทพเสนานุสรณ์และรร.วัดเสมียนนารี ซึ่งล้วนอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับสำนักงานไออาร์พีซี กรุงเทพฯ โดยโครงการต่างๆ ที่บริษัทฯ กับ โรงเรียนได้ออกแบบร่วมกันไว้จะเน้นการพัฒนาใน 4 ด้าน คือ สาระความรู้วิชาการ การส่งเสริมจริยธรรม ความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของนักเรียน และบทบาทของดรงเรียนในการพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อม
“ผมเชื่อว่าการพัฒนาการศึกษาเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง และสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าให้ประเทศได้อย่างยั่งยืน ผมมีความภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับสมศ. ในภารกิจของโครงการ “1 ช่วย 9” และหวังว่าจะได้เป็นภาคส่วนที่ช่วยกันสร้างและพัฒนาเยาวชนของประเทศให้มีความรู้ ความสามารถ พร้อมด้วยศักยภาพ ที่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไปในอนาคต” นายสุกฤตย์ กล่าวทิ้งท้าย