ยูเซ็น โลจิสติกส์ตั้งเป้าทำธุรกิจ สีเขียวเต็มตัว

พฤหัส ๐๗ สิงหาคม ๒๐๑๔ ๑๕:๑๐
ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) บริษัทโลจิสติกส์อันดับ 1 ของไทย เตรียมพร้อมก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ด้วยการประกาศแผนกลยุทธ์ครั้งสำคัญ เตรียมลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านโครงการคาร์บอนสมดุล ที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ 20% พร้อมทั้งเพิ่มยอดขายด้วยเป้าหมาย 150% ภายในปี 2562

“เรากำลังนำพาบริษัทให้ก้าวสู่การทำธุรกิจสีเขียวที่มีความยั่งยืน ทั้งนี้เพื่อสร้างความสำเร็จเชิงธุรกิจในระยะยาว และร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปด้วยในเวลาเดียวกัน โดยเราวางเป้าหมายที่จะสร้างความสมดุลในทุก ๆ ด้านทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม” มร.ยูทากะ มิยาจิ ประธานบริษัท เอ็นวายเค ไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

แผน “เน็กซ์ อินโนเวชั่น” คือแผนกลยุทธ์ที่จะช่วยผลักดันให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 150% ภายในเวลา 5 ปีข้างหน้าเพื่อก้าวสู่การทำธุรกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน โดนแผนนี้เป็นการ “ปรับมุมมอง เปลี่ยนความคิด” (Change of Mind) ที่รวมเอาไอเดียสร้างสรรค์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ท้าทายในธุรกิจ การมาถึงของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และการรับมือกับสภาวะเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลก เพื่อเป้าหมายในการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน

“เราสร้างสรรค์ “โปรเจคพันล้าน” (Billion Goal Project) เพื่อตั้งเป้าหมายรายรับไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาทภายในเวลา 5 ปี โดยปีที่ผ่านมาเรามีรายรับ 7,000 ล้านบาท (1เมษายน2013-31มีนาคม2014) เราตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากบริการขนส่งทางเรือเดินสมุทร (Ocean Freight Forwarding: OFF) ขึ้นอีก 200% คิดเป็นจำนวน 40,000 คอนเทนเนอร์ เพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากบริการขนส่งทางอากาศ (Air Freight Forwarding: AFF) ขึ้นเป็น 7% เพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บคอนเทนเนอร์ขึ้นอีก 150% เป็น 400,000 ตารางเมตรภายในปี 2561 เพิ่มจำนวนรถบรรทุกของเราเองเป็น 1,000 คัน และเพิ่มรถบรรทุกรับจ้างเป็น 1,500-1,600 คันต่อวัน” มร.ฮิโรชิ มานิวะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

มร.มานิวะ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อบรรลุเป้าหมายในการเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสีเขียว ยูเซ็น โลจิสติกส์ยังได้จัดให้มีโครงการ “คาร์บอนสมดุล” โดยทำงานใน 2 ด้านได้แก่ ด้านการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั่วทั้งธุรกิจและตลอดกระบวนการดำเนินธุรกิจ ครอบคลุมทั้งในเรื่องการผลิตสินค้าและบริการ โดยบริษัทได้เริ่มแผนการจัดการระบบขนส่ง แบบประหยัดพลังงานที่มีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยเปลี่ยนรถบรรทุก ที่ใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งบริษัทใช้งานอยู่จำนวน 50% ไปเป็นรถบรรทุกที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวี ปรับปรุงประสิทธิภาพของซัพพลายเชนเพื่อป้องกันการสูญเสียทรัพยากรโดยไม่จำเป็น ซึ่งจะนำไปสู่การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพในธุรกิจซึ่งจะส่งผลดีต่อลูกค้า นอกจากนั้นแวร์เฮ้าส์เราได้ปรับเปลี่ยนเป็นหลอด LED และหลังคาใสเพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน และมีโครงการที่จะเปลี่ยนหลังคาเป็นโซลาร์ เซลล์ในอนาคตส่วนอีกด้านหนึ่งคือการเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์และดูแลสิ่งแวดล้อมทั้งกับพนักงานของบริษัทและกับประชาชนทั่วไปผ่านการปลูกป่าทดแทน และลดการเกิดขยะ

“การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลกและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญซึ่ง ยูเซ็น โลจิสติกส์ ทั้งในฐานะองค์กรระดับโลก และในฐานะองค์กรเอกชนในประเทศไทย เราเล็งเห็นความสำคัญ ของการต้องเข้ามาจัดการกับปัญหานี้อย่างจริงจังเพื่อลูกหลานของเราในอนาคตข้างหน้า” มร.มานิวะ กล่าวเพิ่มเติม

“การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาเป็นเวลาเกือบ 1 ทศวรรษแล้ว โดยเฉพาะในกระบวนการปฏิบัติงานของเรา ซึ่งเราได้ตรวจวัดและควบคุมปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงของโลก ส่งเสริมการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้ความรู้และผลักดันให้พนักงานมีความตระหนักรู้ในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ตลอดจนการจัดการป่าไม้และระบบนิเวศ อย่างยั่งยืนเพื่อขจัด ก๊าซเรือนกระจกออกไปจากชั้นบรรยากาศ”

จากความผันผวนและความท้าทายทางการเมืองและเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา มร.มินาวะ กล่าวว่า “ปี 2557 จะเป็นปีแห่งความเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยพบกับความผันผวนในหลายด้านนับตั้งแต่ปี 2552 สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา นับจากที่เคยเติบโต แบบก้าวกระโดด สู่ยุคเศรษฐกิจถดถอย เรามองว่านับแต่นี้เศรษฐกิจของประเทศไทย จะขยายตัว ด้วยอัตราคงที่ประมาณ 4-5% ในแต่ละปีหากไม่มีเหตุการณ์ใดๆ มากระทบอีกโดยจุดแข็งของเราคือคุณภาพการให้บริการ ราคาที่คุ้มค่าแก่ลูกค้าและความปลอดภัยของสินค้าและการเดินทาง”

“เราใช้โอกาสนี้ในการตรวจสอบตนเอง ซึ่งหากเราจะฟันฝ่าสภาวะการแข่งขันสูงของตลาดได้สำเร็จ เราจะต้องใช้กลยุทธ์สร้างสรรค์ที่ต้องการความร่วมมือจากทั้งผู้บริหารระดับกลางและผู้บริหารระดับต้นของบริษัท ที่จะเข้ามาร่วมทำงานด้วยแผนกลยุทธ์ที่เราให้ชื่อว่า “เน็กซ์ อินโนเวชั่น” รวบรวมไอเดียต่าง ๆ เกี่ยวกับการสร้างความสำเร็จในงานทั้งด้านการเพิ่มยอดขายและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยให้พนักงานตั้งแต่ระดับล่างจนถึงระดับสูงได้มีส่วนร่วม ส่วนการปรับทัศนคติ “เปลี่ยนความคิด” (Change Your Mind attitude) นั้นพนักงานทุกคนจะต้องนำไปปฏิบัติ โดยพนักงานทุกคน ไม่ใช่แค่ทีมขาย แต่ต้องรวมถึงพนักงานบริหารส่วนบริหารจัดการอื่น ๆ ต้องรู้จักคิดวางแผนอย่างมีกลยุทธ์ ทั้งนี้ เราจะมีการแต่งตั้งทีมบริหารมืออาชีพเข้ามาเพิ่มเติมด้วย”

“และเมื่อเราปรับมาใช้ทัศนคติแบบ “เปลี่ยนความคิด” นั่นหมายความว่าเราทุกคนต้องมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงทั้งในแง่ของธุรกิจและในแง่ของการดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อมุ่งไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ดังนั้นการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของเราเองนั้นจึงไม่เป็นแค่การจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการนำเรื่องจริยธรรมในการทำงาน การใช้ทรัพยากรต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจน ความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานของเรากับผู้คนในสังคมอีกด้วย ในอนาคตเรามีแผนที่จะติดตั้ง แผ่นรับพลังงานแสงอาทิตย์ที่โกดังของเราทั่วประเทศ ทั้งนี้ เรายังรอความชัดเจนของนโยบายของรัฐ เกี่ยวกับการสนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือกนี้ด้วย” มร.มินาวะ กล่าวสรุป

โครงการคาร์บอนสมดุล เป็นโครงการปลูกป่าทดแทนระยะเวลา 20 ปีที่เริ่มต้นขึ้น เพื่อช่วยปรับสมดุล ของสภาวะอากาศที่เกิดจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์ โดยปีนี้เป็นปีที่ 8 ของการทำ กิจกรรมปลูกป่าทดแทน จัดขึ้นในวันที่ 2 สิงหาคม 2557 โดยบริษัทได้เลือกปลูกป่าที่อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี ในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม 80 ไร่ ใช้กล้าไม้เบญจพรรณ 16,000 ต้นประกอบด้วย ไม้ประดูป่า มะค่าโมง กันเกรา ยางนา พะยูง มะฮอกกานี ตะเคียนทอง สำโรง กฤษณา และไม้เเดง ได้รับความร่วมมือจาก สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ เขต 9 ชลบุรี สังกัดกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น โรงเรียนในพื้นที่ และพนักงานบริษัทเอ็นวายเค กรุ๊ป (ประเทศไทย) กว่า 350 คน

นับจากปี 2550 บริษัทฯ ได้ทำการปลูกป่าทดแทนไปแล้วมากกว่า 605 ไร่ โดยแบ่งเป็นในช่วงปี 2550-2553 ที่จังหวัดนครราชสีมาเป็นจำนวน 325 ไร่ ปี 2544-2546 ที่จังหวัดชลบุรีรวม 200 ไร่ และในปี 2557 นี้ บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ วางเป้าหมายไว้ที่ 80 ไร่ ซึ่งภายใต้การจัดทำโครงการนี้ ยูเซ็น โลจิสติกส์ จะเข้าไปดูแลทั้งในเรื่องของการปลูกป่าทดแทน การดูแลต้นไม้ที่มีอยู่เดิมในพื้นที่ และการป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่าด้วย นอกจากนั้นเรายังมีโครงการอื่นๆที่เราทำมาโดยตลอดทั้งการบริจาคโลหิตและมอบทุนการศึกษา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ