กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายตามคาด KTAMขายตราสารหนี้6เดือนชู2.60%ต่อปี

พุธ ๑๓ สิงหาคม ๒๐๑๔ ๑๒:๐๔
นางชวินดา หาญรัตกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนประเภทกำหนดอายุโครงการ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 104 ( KTSUPB104 ) เสนอขายวันที่ 14-19 สิงหาคม 2557 อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประมาณ 75%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ประกอบด้วย เงินฝาก Bank of China , เงินฝาก China Construction Bank , MTN ออกโดย Banco BTG Pactual S.A , MTN ออกโดย Banco ABC ( Brasil ) ส่วนที่เหลือลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภท หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงินสถาบันการเงิน บริษัทเอกชน ผลตอบแทนประมาณ 2.60% ต่อปี

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ ( Roll Over )ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 6เดือน 5 ( KTSIV6M5) เสนอขายถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2557 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ภาคเอกชน 85% ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝาก ธนาคารออมสิน ผลตอบแทนประมาณ 2.40%ต่อปี

สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย โดยรวมปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน โดยเฉพาะในช่วงอายุ 5-10 ปี ตามแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศหลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.00% ต่อปี และมีแนวโน้มที่จะยังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนอย่างน้อยถึงสิ้นปี โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตร อายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง 1 basis point (bps.) มาอยู่ที่ 2.38% ต่อปี อายุ 5 ปี ปรับตัวลดลง 11 bps.มาอยู่ที่ 3.02% ต่อปี และอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง 14 bps.มาอยู่ที่ 3.51% ต่อปี

ด้านฝ่ายวิจัย ของบลจ.กรุงไทย รายงานว่า ผลการประชุม กนง. ที่ผ่านมา มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.0%เป็นไปตามคาด ทั้งนี้ กนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ตามการใช้จ่ายภาคเอกชนที่ดีขึ้นหลังเหตุการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย และแรงกระตุ้นด้านการคลังจะทยอยเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เรามองว่าเม็ดเงินจากนโยบายการคลังอาจจะไม่ไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเร็วนัก เพราะขั้นตอนการเบิกจ่ายที่ค่อนข้างใช้เวลา ทำให้นโยบายการเงินยังน่าจะอยู่ในลักษณะผ่อนปรนเช่นนี้ไปจนถึงสิ้นปีเป็นอย่างน้อย ขณะที่การดำเนินตามโรดแมพของ คสช. ยังเป็นไปต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้มีการตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเข้ามาพิจารณากฎหมายต่างๆ ที่ค้างอยู่ โดยเฉพาะ พรบ. งบประมาณปี 58และคาดว่าน่าจะมีการเสนอชื่อ นายกรัฐมนตรีได้ภายในเดือนนี้ และมีการสรรหาและแต่งตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติได้ภายในต้นเดือน ต.ค.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ