นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวภายใน พิธีลงนามความร่วมมือ ระหว่างกรมป่าไม้และกรมการปกครอง ในการร่วมแชร์ข้อมูลพื้นฐานผ่านะระบบออฟไลน์และออนไลน์ ว่า “การร่วมแชร์ระบบฐานข้อมูลระหว่างกรมการป่าไม้และกรมการปกครองในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อกรมป่าไม้ในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่า การครอบครองเอกสารสิทธิ์ หรือ สิทธิ์ต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ที่ดิน ตลอดจนการดำเนินการในด้านการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับธุรกิจค้าไม้ผิดกฏหมาย รวมถึงการติดตาม การกระทำความผิดด้านต่างๆ เกี่ยวกับป่าไม้ เนื่องจากข้อมูลของทางกรมการปกครองมีความละเอียดของฐานข้อมูลสูง โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้และกรมการปกครองจะสามารถแชร์ข้อมูลกันได้ลึกลงไปในรายละเอียดมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะข้อมูลฐานบุคคล ที่จะเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบชื่อ สกุล ที่อยู่ บนฐานเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ไม่สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลในส่วนของเลขบัตรประชาชนทั้ง 13 หลักได้ และต้องรอให้มีการตรวจสอบ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการติดตามข้อมูลบุคคล
อย่างไรก็ตามจากความร่วมมือระหว่างกรมป่าไม้และกรมการปกครองในครั้งนี้ จะได้มีการอบรมทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การดำเนินการในด้านฐานข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทำให้การทำงานของเจ้าหน้ากรมป่าไม้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบข้อมูลบุคคลและการใช้พื้นที่ของบุคคลเป้าหมายในการกระทำผิดต่างๆเกี่ยวกับป่าไม้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ที่มุ่งเน้นด้านการป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ ที่จะต้องเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ” อธิบกรมป่าไม้กล่าว
ด้านนายสถาพร ศิริภักดี รองอธิบดีกรมการปกครองกล่าวว่า “นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีและเพิ่มประสิทธิภาพในระบบราชการ ด้วยการใช้ฐานข้อมูลร่วมกันในบางส่วน แม้จะยังคงติดปัญหาด้านข้อกฎหายหลายด้าน อาทิ การเปิดเผยภาพบุคคล ที่ติดข้อกฎหมายเกี่ยวกับการละเมิด ไปยังคณะรัฐมนตรี โดยในอนาคตจะมีการนำเสนอการขออนุญาตการเผยแพร่ภาพบุคคล เพื่อให้กรมป่าไม้และหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมแชร์ฐานข้อมูลได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น”รองอธิบดีกรมการปกครองกล่าว