นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบา และบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดวัสดุก่อสร้างในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มฟื้นตัว เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก เนื่องจากสถานการณ์ปัจจัยลบคลี่คลาย ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นและบรรยากาศการซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างของผู้บริโภคให้ดีขึ้น ประกอบกับนโยบายขับเคลื่อนประเทศด้วยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม เป็นผลให้ความเชื่อมั่นต่อภาคเอกชนผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้น และกลับมาลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับความต้องการลูกค้าเพิ่มขึ้น
ส่วนผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน) ของปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้ 2,311.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.14 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.72 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 2,272.79 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 222.72 ล้านบาท ลดลง 70.43 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.03 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 293.15 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้ (เมษายน-มิถุนายน) มีรายได้ 1,159.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.22 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.87 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มี แต่กำไรสุทธิทำได้ 103.17 ล้านบาท ลดลง 35.03 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.35 สาเหตุหลักมาจากราคาขายกระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ลดลงจากสภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งค่าเสื่อมและดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากสายการผลิตใหม่
แต่อย่างไรตัวเลขยอดขายที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ตราเพชร โดยพบว่ายอดขายจากการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนยังขยายตัวมากกว่า 10% และตลาดลูกค้าโครงการ ที่ DRT ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ซึ่งสามารถรักษาอัตราการเติบโตได้ดี
“แม้ครึ่งปีแรกของปีนี้ ตลาดวัสดุก่อสร้างได้รับผลกระทบต่อปัจจัยลบ แต่ภาพรวมของตัวเลขยอดขาย DRT นั้น ยังสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยความหลากหลายของสินค้าวัสดุก่อสร้าง ของ DRT และการบริหารจัดการด้านช่องทางขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะช่องทางการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งพบว่ามีอัตราการขยายตัวที่ดีมาก” นายอัศนี กล่าว
ด้านนายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า จากความเชื่อมั่นของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่งผลดีต่อ DRT ในการเข้ารับงานลูกค้าโครงการ ที่จะชูความพร้อมด้านสินค้าวัสดุก่อสร้างที่หลากหลายและบริการเพื่อรุกขยายตลาดลูกค้าในกลุ่มนี้ เพื่อผลักดันการเติบโตของช่องทางการจัดจำหน่ายดังกล่าวขณะเดียวกัน จากยุทธศาสตร์ในปีนี้ที่เร่งขยายตลาดส่งออกรองรับ AEC นั้น เชื่อว่าจะเป็นแรงหนุนที่ดีต่อผลการดำเนินงานภาพรวมในปีนี้ให้เติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้