นางสาวฤดี ปติอารยกุล ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2% จนถึงสิ้นปี และหากเศรษฐกิจมีการปรับฟื้นตัวหลังจากที่ คสช. ได้ดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจและการคลังแล้ว แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจมีการปรับตัวขึ้นได้ ซึ่งที่ผ่านมาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างช้า ๆ ไม่ได้ฟื้นตัวรวดเร็วอย่างที่ตลาดคาดการณ์ ทำให้ กนง. อาจชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปก่อน โดยตลาดคาดการณ์ว่า แนวโน้มที่ กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะอยู่ในช่วงประมาณครึ่งปีหลังของปี 2558
ทั้งนี้ Fund flow จากนักลงทุนต่างชาติยังคงให้ความสนใจในตลาดตราสารหนี้ไทย และเข้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง ด้านนักลงทุนไทย มีการเทขายทำกำไรออกไปบ้าง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่างประเทศอาจส่งผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ไทยเช่นกัน อย่างเช่น ความไม่สงบในยูเครน อาจทำให้ระยะสั้นผลตอบแทนพันธบัตรในสหรัฐฯ และยุโรปยังทรงตัวในระดับต่ำ และแรงกดดันจากแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีขึ้นจะกระทบราคาและทำให้ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกผันผวน ดังนั้น สำหรับการลงทุนในช่วงนี้ จึงแนะนำให้ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นๆ
โดยในวันที่ 25 สิงหาคม นี้ บริษัทฯ จะเปิดขายและรับซื้อคืนรอบใหม่ (Rollover) กองทุนเปิดแอสเซทพลัสทวีเงินออม 2 (ASP-MMF2) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ไทย ที่สามารถลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศได้ไม่เกิน 79% อายุ 6 เดือน โดยรอบการลงทุนนี้ จะพิจารณาลงทุนในตั๋วแลกเงินในประเทศ เช่น ตั๋วแลกเงิน บมจ. เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (ASK) และเงินฝากธนาคารต?างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคารต่างประเทศ เช่น Bank of China สาขามาเก๊า โดยผลตอบแทนหลังหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายประมาณ 2.80% ต่อปี*
นอกจากนี้ ในวันที่ 27 สิงหาคม นี้ บริษัทฯ จะเปิดขายและรับซื้อคืนรอบใหม่ (Rollover) กองทุนเปิด แอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 9 (ASP-ACFIXED9) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ไทย ที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยรอบการลงทุนนี้ อายุประมาณ 3 เดือน โดยผลตอบแทนหลังหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายประมาณ 2.70% ต่อปี