วธ. นำทุนทางประวัติศาสตร์ในมิติทางวัฒนธรรม เชื่อมใจชายแดนใต้สู่สันติสุข

ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า กิจกรรมที่สำคัญในโครงการนี้คือ การเสวนาเรื่อง “ศรีวังสา”เป็นการพูดคุยโดยนำทุนทางประวิติศาสตร์ที่สร้างสรรค์ในแง่มุมหนึ่งของพื้นที่มาเชื่อมใจ สร้างความเข้าใจในข้อเท็จจริงของประวัติศาสตร์ปัตตานีที่มีความเป็นมาที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งด้านธุรกิจ อุดมคติ หรือความเชื่อ รวมถึงด้านศาสนา ไม่ว่าจะเป็นอิสลาม พุทธ และคริสต์ มาสร้างความสมานฉันท์ และความเข้าใจต่อกัน อันจะสร้างความสุขให้ชาวปัตตานีได้ ซึ่งจะจัดกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงวัฒนธรรมจะเข้ามาเป็นตัวเชื่อมประสานขับเคลื่อนสิ่งเหล่านี้ เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ที่ดี และสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นในสังคมต่อไป

ร.ต.สมโภชน์ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า จังหวัดปัตตานี มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ มีวิถีวัฒนธรรม และอัตลักษณ์อันโดดเด่น จึงต้องค้นหาวิถีชีวิตที่เชื่อมต่อกันได้ การนำเรื่องความเป็นมาและชาติพันธุ์ มาประสานความเข้าใจ เพื่อความสามัคคีปรองดอง ซึ่งเป็นแนวทางอันทรงคุณค่า การจัดงานครั้งนี้เป็นการคืนความสุขให้ชาวตานี นอกจะมีการจัดกิจกรรมนิทรรศการเย็นศิระเพราะ พระบริบาล ประวัติความเป็นมาของราชวงศ์ศรีวังสา การให้ความรู้เรื่องการทำบุหงาซีเระหรือบายศรีจัดตลาดนัดภูมิปัญญา คืนความสุขชาวตานี และการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น “ของดีบ้านฉัน” ยังมีการเปิดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสร้างความเข้าใจในประวัติศาสตร์ จังหวัดปัตตานี อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมอันจะนำไป สู่ความปรองดองและสมานฉันท์ อีกทั้งยังสืบทอด สืบสานอนุรักษ์รากฐานวัฒนธรรมที่สะท้อนรากวัฒนธรรมของคนในจังหวัดปัตตานีอีกด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมยังจะมีการจัดโครงการวัฒนธรรมเชื่อมใจชายแดนใต้สันติสุขขึ้นอีกระหว่างวันที่ 22-24 สิงหาคม 2557 ภายใต้ชื่องาน “วัฒนธรรมเชื่อมใจ สานสายใยสู่สันติสุข ถนนคนเดินคืนความสุข สู่ประชาชน” ณ สนามโรงพิธีช้างเผือกเทศบาลนครยะลา โดยจะการแสดงศิลปะพื้นบ้าน ดิเกฮูลูกลองยาว การแสดงของนักศึกษาในสถานศึกษา เป็นต้น

นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 21-25 กันยายน 2557 จะจัดขึ้นที่จังหวัดนราธิวาส ภายใต้ชื่องาน “99 ปี นราธิวาส มหกรรมสินค้าและวัฒนธรรมเชื่อมใจ ชายแดนใต้สันติสุข” ณ สวนสาธารณะ เฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา ถนนศูนย์ราชการ อ.เมือง โดยจะมีการแสดงโขนของกรมศิลปากรชุดใหญ่ จากนั้นจะไปสาธิตการแสดงโขนตามพื้นที่ต่างๆ ได้แก่ หอประชุมเทศบาลเมืองสุไหงโกลก และโรงเรียนนราธิวาส