บทบาทที่สำคัญของผู้จัดการยุคใหม่ นอกจากการบริหารทีมให้ได้ผลงานตามเป้าหมายแล้ว
นั่นคือการฝึกสอนและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching & Mentoring) ให้กับทีมงาน
ซึ่งการฝึกสอนและการเป็นพี่เลี้ยงที่ดีนั้น จะยิ่งส่งเสริมให้การบริหารทีมงานให้ได้ผลงานตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น
การฝึกสอนและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching & Mentoring) เป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิผลในการพัฒนาบุคลากร เพราะนอกจากจะพัฒนาบุคลากรในเรื่องของความรู้และทักษะในการปฏิบัติงานแล้ว ยังสามารถปลูกฝังค่านิยมหรือวัฒนธรรมองค์กรให้กับพนักงานได้อีกด้วย และกระตุ้นให้เกิดการทำงานแบบทีมเวิร์คมากขึ้น อันจะส่งผลให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายได้โดยง่าย
วิทยการผู้เชี่ยวชาญ
Mr. Tayat Sriplang
Managing Partner
The Nile Management Consulting
Mr. Sriplung has extensive experiences in managing human resource and organization change both Thai and Internal organizations. He also has strong expertise in career planning anddevelopment, performance measurement, and communication management. In addition, he has solid skills and experience in assessing organization culture and change readiness.
Training Objective
1. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนามีความรู้ความเข้าใจบทบาทของผู้จัดการในฐานะโค้ชและพี่เลี้ยง สามารถปฏิบัติตัวได้เหมาะสมกับบทบาทดังกล่าว
2. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาฝึกฝน และสามารถนำเทคนิคเกี่ยวกับการโค้ชการฝึกสอนและการเป็นพี่เลี้ยงไปใช้ได้อย่างเหมาะสมตามสถานการณ์
3. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ NLP (Neuro-Linguistic Programming) และสามารถนำเทคนิค NLP ไปใช้ประกอบการฝึกสอนและการเป็นพี่เลี้ยงได้
Who should attend:
ระดับหัวหน้างาน ผู้จัดการ และผู้บริหาร
Training Agenda Program: 7 - 8 October 2014
Module 1: พื้นฐานและการกำหนดเป้าหมาย
- ความหมาย ความเหมือน และความแตกต่างของโค้ชและพี่เลี้ยง
- พื้นฐานทั่วไปของการเป็นโค้ชและพี่เลี้ยง
- การสร้างบทสนทนาเพื่อสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจ (Rapport)
- การวิเคราะห์ตนเองในบริบทของเนื้องาน เช่น เครื่องมือ SWOT, Johari Window เป็นต้น
- การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน
- การระบุกระบวนการและดัชนีชี้วัดความสำเร็จ
- กิจกรรม: การกำหนดเป้าหมาย กระบวนการ และดัชนีชี้วัดความสำเร็จ
Module 2: อุปสรรคและการก้าวข้าม
- อุปสรรคที่เกี่ยวกับงาน และอุปสรรคทางอารมณ์
- การระบุรากของปัญหาและแนวทางการแก้ไข
- ขั้นตอนการดำเนินงาน (Action Steps)
- ช่วงเวลาทบทวน (Review Period)
- กิจกรรม: การระบุอุปสรรคที่เกี่ยวกับงานและทางอารมณ์ รวมถึงแนวทางการแก้ไข
Module 3: เทคนิคทั่วไปที่ใช้ในการโค้ช
- ตัวอย่างคำพูดที่ดีและคำพูดต้องห้ามสำหรับโค้ช
- สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในการโค้ช
- การติดตามผลการพัฒนาตัวเองทั้งด้านผลงานและอารมณ์
- การให้กำลังใจและการช่วยเหลือในเนื้องาน
- คำถามที่กระตุ้นความคิดในการพัฒนางาน และพัฒนาอารมณ์ (Meta Model & Melton Model)
- กิจกรรม: ฝึกฝนเทคนิคในการใช้คำพูดและน้ำเสียง
Module 4: Neuro-Linguistic Programming (NLP)
- รู้จักกับ NLP
- หลักการที่สำคัญของ NLP
- การสืบค้นสิ่งติดค้างในอดีต (Recall Mistake)
- ผลลัพธ์ที่คาดหวัง (Well Formed Outcome)
- การจัดวางอารมณ์ใหม่ (Reframing)
- ประสาทสัมผัสทั้ง 5 (Sensory)
- การแยกแยะอารมณ์กับเหตุการณ์ (Dis-integration & Integration)
- การซักซ้อมเหตุการณ์ในใจเมื่อเหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นอีกครั้ง (Future Pacing)
- แผนที่ภายใน และการจัดทำแผนที่ใหม่ (Internal Map & Remapping)
- แนวทางเฉพาะตัว (Preferred Representational System)
- ความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ (Flexibility)
- สิ่งที่คาดว่าจะทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง (Swish)
Module 5: ฝึกปฏิบัติในกิจกรรม NLP
- กิจกรรม: Mapping & Preferred Representational System
- กิจกรรม: Dis-integration & Integration
- กิจกรรม: Future Pacing & Swish
- กิจกรรม: Flexibility
- กิจกรรม: กรณีศึกษา
Module 6: Learning from the Class
- แบ่งปันสิ่งที่ได้รับ
- บทสรุป
ขอเชิญเข้าร่วมกัน 'เรียนรู้แบบเป็นทีม' เพื่อให้สามารถร่วมกันนำกลับมาถ่ายทอดในองค์กรได้อย่างทรงพลัง
สมัครพร้อมกันตั้งแต่ 4 ท่านขึ้นไป ได้รับส่วนลดพิเศษค่าลงทะเบียนท่านละ 4000 บาท
ชำระค่าลงทะเบียนก่อน 29 สิงหาคม 2557 ได้รับส่วนลดพิเศษค่าลงทะเบียนอีกท่านละ 2000 บาท
ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ 200%
รับสมัครจำนวนจำกัด สนใจกรุณาติดต่อ
คุณศตพร
252/119 อาคารเมืองไทย-ภัทร คอมเพล็กซ์ 2 ชั้น 24 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
โทร: 022754511, 026931474, 0896929900
Email:[email protected]