นายแพทย์วีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “เกรซซิมเปิล” บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากชานอ้อยและเยื่อไผ่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ออกมาได้สักระยะหนึ่งก็พบว่ากระแสการตอบรับเป็นไปได้ด้วยดี สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ กรมอนามัยที่ออกมารณรงค์ เลิกใช้โฟมบรรจุอาหารทั่วไทย ทำให้ตอนนี้บริษัทฯตั้งเป้าในการรุกเจาะตลาดระดับกลางมากขึ้น อาทิ ร้านแผงลอย ร้านรถเข็นและร้านโชว์ห่วย เป็นต้นและเชื่อว่าจะทำให้รายได้ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตจากปีก่อน 25 % เป็น 400 ล้านบาทและตั้งเป้าภายใน 3 ปี ยอดรายได้รวมของบริษัทฯ น่าจะอยู่ที่ระดับ 1 พันล้านบาท
“ปัจจุบัน เกรซซิมเปิล ได้ถูกวางจำหน่ายในร้านโชว์ห่วยแล้ว กว่า 600 สาขาทั่วประเทศ และนอกจากนี้ยังมีแผนขยายวางให้ครบถึง 1 พันสาขาภายในปีนี้อีกด้วยเนื่องจากความต้องการของร้านค้าปลีกพ่อค้าแม่ขาย ร้านอาหารต่างๆ มีมากขึ้นเพราะความตื่นตัวจากภาครัฐที่ออกนโยบายรณรงค์เลิกใช้โฟมบรรจุอาหาร และให้เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยกับผู้บริโภคและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทน” นายแพทย์วีรฉัตรกล่าว
นายแพทย์วีรฉัตร กล่าวถึงความแตกต่าง ของผลิตภัณฑ์ของเกรซคลาสสิคกับผลิตภัณฑ์เกรซ ซิมเปิล โดยเทคโนโลยีการผลิตเกรซคลาสสิคนั้นผลิตจากเยื่อพืชธรรมชาติ ซึ่งเป็นเยื่อชานอ้อย 100% ส่วน เกรซซิมเปิล นั้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาจากเยื่อชานอ้อยผสมกับเยื่อไผ่ ทำให้มีราคาถูกกว่าตัวเดิมประมาณ 50% ขณะที่ราคาแพงกว่าโฟม 1 บาท เท่านั้น แต่มีคุณสมบัติที่ปลอดภัย ไร้สารก่อมะเร็ง ใช้อุ่นอาหารในไมโครเวฟได้ ใส่อาหารได้ทั้งร้อน และเย็น ไม่รั่วซึม ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ภายใน 6 สัปดาห์
“ในอนาคตอันใกล้บริษัทยังเตรียมพร้อมในการเดินหน้าผลิตสินค้าอย่างเต็มที่ โดยการขยายโรงงานแห่งใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต พร้อมที่จะส่งออกทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งเชื่อว่าปริมาณการผลิตที่เพิ่มมากขึ้นน่าจะสอดคล้องกับกระแสของสังคมที่ผู้บริโภคจะเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมรักสุขภาพ รักสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยการหันกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุอาหารที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลิตภัณฑ์เกรซซิมเปิลน่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” นายแพทย์วีรฉัตร กล่าวทิ้งท้าย