พม. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการต่อเนื่องเพื่อกำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติร่วมกัน ระหว่างประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

พุธ ๒๗ สิงหาคม ๒๐๑๔ ๑๐:๐๕
นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิด "การประชุมเชิงปฏิบัติการต่อเนื่องเพื่อกำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติร่วมกันระหว่างประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์" ณ ห้องไชน่า ชั้น ๑๒ โรงแรมเซ็นทรา เซ็นทรัล สเตชั่น กรุงเทพฯ

นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า การคัดแยกผู้เสียหายเป็นขั้นตอนแรกที่มีความสำคัญ ทั้งต่อการให้ความคุ้มครองผู้เสียหายและกระบวนยุติธรรมทางอาญา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินการต่อไปอย่างเหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ได้รับการคัดแยกและได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสมเป็นรายบุคคล การคัดแยกผู้เสียหายจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการให้ความคุ้มครองและช่วยเหลือ ซึ่งหากการคัดแยกผู้เสียหายผิดพลาดจะนำไปสู่การเพิกเฉยต่อสิทธิของบุคคล โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาส

ผู้อพยพย้ายถิ่นและผู้ที่ถูกเนรเทศ ซึ่งไม่มีเอกสารหรือหลักฐานแสดงตัว ดังนั้นการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายจากการ

ค้ามนุษย์ จึงควรได้รับความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายเลิศปัญญา กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)จึงได้จัด "การประชุมเชิงปฏิบัติการต่อเนื่องเพื่อกำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติร่วมกันระหว่างประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์"ขึ้น ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๗

เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการคัดแยกผู้เสียหายระหว่างประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ทบทวนร่างแนวทางการปฏิบัติและแบบสอบถามในการคัดแยกผู้เสียหายระหว่างประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง พัฒนาแนวทางปฏิบัติร่วมกันระหว่างประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จากร่างแนวทางปฏิบัติและแบบสอบถามที่ใช้ในการคัดแยกผู้เสียหาย ซึ่งจัดทำขึ้นในปี ๒๕๕๕ ณ กรุงเทพฯ และผลักดันให้เกิดข้อตกลงร่วมกันในการนำแนวทางปฏิบัติและแบบสอบถามที่เห็นชอบร่วมกันไปใช้ในการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงอย่างเหมาะสมและเป็นรูปธรรมต่อไป รวมถึงเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในการต่อต้านการค้ามนุษย์ และสนับสนุนให้เกิดการหารือและการมีส่วนร่วมในระดับนโยบายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ในระดับภูมิภาค ซึ่งจะนำไปสู่การลดภาระต้นทุนทางสังคมที่อาจเกิดขึ้นในระเบียงเศรษฐกิจในลักษณะของการดำเนินงานเชิงรุกต่อไป

"การประชุมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนทั้งสิ้น ๘๐ คน ประกอบด้วย ผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบพัฒนาแนวปฏิบัติในการคัดแยกผู้เสียหายในประเทศ มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดการตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ตามกฎหมาย หรือเป็นหน่วยงานที่นำแนวปฏิบัติไปใช้ รวมทั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบการให้ความคุ้มครองและช่วยเหลือผู้เสียหาย ผู้สังเกตการณ์จากองค์กรภาคประชาสังคม ซึ่งมีส่วนร่วมในการคัดแยกและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จากประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ๕ ประเทศ ได้แก่ ประเทศกัมพูชา ลาว พม่า ไทยและเวียดนาม" นายเลิศปัญญา กล่าวตอนท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO