การผนึกกำลังครั้งนี้เพื่อเปิดตัว “บริษัท อิชิตัน อินโดนีเซีย จำกัด” ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายชาพร้อมดื่มและเครื่องดื่มชนิดต่างๆ เป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท อิชิตันกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท พีที อาทรี่ แปซิฟิค จำกัด หรือ เอพี (PT Atri Pasifik) (AP) ประเทศอินโดนีเซีย ถือหุ้นร่วม ในสัดส่วน 50:50(50% จากอิชิตัน และ 50% จากเอพี) โดย เอพี เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างพีที ซิกมันทรา อัลฟินโด้ (PT Sigmantara Alfindo) ประเทศอินโดนีเซีย และมิตซูบิชิ คอร์เปอเรชั่น (Misubishi Corperation)
ประเทศญี่ปุ่น
อิชิตันกรุ๊ป กับ เอพี (โดย พีที ซิกมันทรา อัลฟินโด้ และมิตซูบิชิ คอร์เปอร์เรชั่น) จะมีการเรียกเก็บเงินลงทุน 25% ของทุนจดทะเบียน ฝ่ายละ 148 ล้านบาท หลังจากนั้นจะทะยอยเรียกเก็บส่วนที่เหลือภายหลังตามขั้นตอนการดำเนินงานของบริษัท อิชิตัน อินโดนิเซีย จำกัด รวมเป็นเงินลงทุนเมื่อเสร็จสิ้นโครงการฝ่ายละ592 ล้านบาท
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยว่า “อิชิตันให้ความสำคัญกับการศึกษาข้อมูลการขยายตลาดไปยังประเทศอินโดนีเซียนานพอสมควร พบว่าอินโดนีเซียมีศักยภาพหลายด้านที่สนับสนุนการขยายธุรกิจชาพร้อมดื่ม เช่น จำนวนประชากรมากกว่า 250 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นและวัยทำงานพร้อมสำหรับการเปิดรับเครื่องดื่มใหม่ๆ ประเทศตั้งในเขตศูนย์สูตรอากาศร้อนตลอดทั้งปีมีวัฒนธรรมดื่มชาเป็นประจำคู่กับทุกมื้ออาหารและทุกๆ กิจกรรมระหว่างวัน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อการทำตลาดเครื่องดื่มอย่างมาก เฉพาะตลาดชาพร้อมดื่มอินโดนิเซียมีมูลค่าสูงถึง 73,000 ล้านบาทและมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% การเข้าไปทำตลาดของ อิชิตัน อินโดนีเซีย ครั้งนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะชาพร้อมดื่มแต่อิชิตันสามารถผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแทบทุกชนิดเพื่อตอบ สนองทุกความต้องการของคนอินโดนีเซียได้ทันที”
“อิชิตัน อินโดนีเซีย” เป็นการรวมความแข็งแกร่งของ 3 บริษัท จาก 3 ประเทศ โดยอิชิตันกรุ๊ปมีประสบการณ์ด้านพัฒนาเครื่องดื่ม และความเชี่ยวชาญทางการตลาดจนปัจจุบันเป็นผู้นำอันดับ 1 ธุรกิจชาพร้อมดื่มในประเทศไทย อีกทั้งโรงงานอิชิตันกรีนแฟคทอรี่ใช้เทคโนโลยีการผลิตทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีการวางแผนจัดการเป็นระบบสามารถสร้างศักยภาพการผลิตและบริหารต้นทุนอย่างดีเยี่ยม สำหรับบริษัท พีที อาทรี่ แปซิฟิค (เอพี) เป็นบริษัททำธุรกิจด้านการจัดจำหน่ายที่ทรงพลังแห่งหนึ่ง ของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะสามารถนำสินค้าของอิชิตัน อินโดนีเซีย เข้าสู่ตลาดได้ทันทีทั้งโมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อ และร้านเครื่องดื่มรายย่อยทั่วประเทศ ในขณะที่ บริษัท มิตซูบิชิ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ เอพีมีความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายการลงทุนและเป็นผู้นำเทคโนโลยีที่หลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เครื่องดื่มอิชิตันมีกำหนดกระจายตลาดประเทศอินโดนีเซียภายในไตรมาส 1/2558 ตั้งเป้าจะมีสินค้าอย่างน้อย 2 รสชาติออกวางจำหน่ายภายในปีแรก ขั้นต้นจะใช้วิธีว่าจ้างผลิตในอินโดนีเซียและจากโรงงานของอิชิตันกรุ๊ปเอง ซึ่งส่งผลดีทำให้บริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องลงทุนโรงงานผลิตด้วยตัวเองในช่วงเริ่มต้น เมื่อการเข้าทำตลาดเต็มรูปแบบและได้รับผลตอบรับตามความคาดหมายแล้ว บริษัทฯ จึงจะเริ่มก่อสร้างและติดตั้งสายการผลิตแรกของโรงงาน
“การลงทุนของอิชิตันกรุ๊ปครั้งนี้จะช่วยขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรกว่า 250 ล้านคนและมากที่สุดใน AEC การรวมความแข็งแกร่งของทั้งอิชิตันกรุ๊ป เอพี และ มิตซูบิชิจะสร้างโอกาสด้านการตลาดที่ยิ่งใหญ่ให้กับทั้ง 3 บริษัท อันจะสร้างผลประกอบการและผลตอบแทนสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น ในขณะเดียวกันก็จะช่วยพัฒนาศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจของประเทศไทยให้มีมาตรฐานการยอมรับระดับโลก” นายตันกล่าวการแถลงข่าวการร่วมทุนบริษัท อิชิตัน อินโดนีเซีย จำกัด ครั้งนี้ได้รับเกียรติจากมร. โจโกะ ซูซานโต้ (Mr. Djoko Susanto) President Director จาก PT Sigmantara Alfindo ประเทศอินโดนีเซีย และ มร.ทาเคฮิโกะ คาคิยูชิ (Mr.Takehiko Kakiuchi) Executive Vice President, Group CEO, Living Essentials Group, Mitsubishi Corporation (Tokyo) ประเทศญี่ปุ่นร่วมลงนามในสัญญาครั้งนี้