พล.อ.อุดม กล่าวว่า การไปประกอบพิธีฮัจย์ของพี่น้องมุสลิมนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก ทราบว่าในเทศกาลฮัจย์ทุกปีจะมีพี่น้องมุสลิมทั่วทุกมุมโลกเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่นครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ประมาณเกือบ 3 ล้านคน ในจำนวนนี้มีชาวไทยมุสลิมรวมอยู่ด้วยประมาณ 10,400 คน กล่าวได้ว่าฮัจย์เป็นแหล่งรวมประชาคมโลกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่ทุกคนพร้อมใจกันปฏิบัติอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
รองเลขาคสช. กล่าวต่อไปว่า การไปประกอบพิธีฮัจย์ นอกจากจะไปประกอบศาสนกิจตามหลักการของศาสนาอิสลามแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้ได้รู้จักและศึกษาเรียนรู้จากผู้คนจำนวนมาก ดังนั้นพี่น้องมุสลิมที่ไปประกอบพิธีฮัจย์จึงต้องปฏิบัติตามกฎ ระเบียบที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ต้องพยายามแสดงเอกลักษณ์ความเป็นมุสลิมไทยที่ดีงามให้กับพี่น้องมุสลิมประเทศอื่นๆ ได้เห็นการรักศักดิ์ศรีของมุสลิมไทยที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รักสันติ "ถ้าจะพูดในวงกว้างก็คือ พี่น้องมุสลิมทั้งหลายที่ไปประกอบพิธีฮัจย์ก็คือผู้แทนประเทศไทยที่เป็นทูตสันติภาพในการสร้างสันถวไมตรีกับประชาคมโลกนั่นเอง พี่น้องมุสลิมทุกท่านน่าจะภูมิใจเช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ ที่เขาภาคภูมิใจกับพี่น้องที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์" เลขาคสช. กล่าว
ศ. ดร. อภินันท์ กล่าวว่า พิธีส่งและอำนวยพรผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ครั้งนี้ วธฺ.และคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์ได้อำนวยความสะดวกด้านการขอวีซ่า จัดที่พักและการเดินทางให้กับผู้แสวงบุญ เพื่อให้การเดินทางเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเที่ยวบินปฐมฤกษ์นี้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดเที่ยวบินพิเศษรับส่งผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ จากท่าอากาศยานนราธิวาส สู่ท่าอากาศยานเมืองมาดีนะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อคืนความสุขให้กับพี่น้องชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้นโยบายของ คสช. และตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอบต.) ที่ได้ขอให้มีการพิจารณาจัดเที่ยวบินพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญและญาติพี่น้องที่มาร่วมส่งผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิม
ปลัดวธ. กล่าวอีกว่า เทศกาลฮัจย์ปีนี้ วธ.ได้อำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ซึ่งได้รับโควต้าจากประเทศซาอุดิอาระเบีย 10,400 คน รวมถึงผู้แสวงบุญในโครงการของ ศอบต. จำนวน 200 คน โดยเที่ยวบินปฐมฤกษ์นี้มี 2 เที่ยวบิน มีผู้แสวงบุญเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ จำนวน 575 คน นอกจากนี้ยังมีท่าอากาศยานอื่นๆ ที่วธ.ได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้แสวงบุญ ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จัดเที่ยวบินจำนวน 144 เที่ยวบิน จำนวน 5,040 คน ท่าอากาศยานภูเก็ต จำนวน 14 เที่ยวบิน จำนวน 832 คน และท่าอากาศยานหาดใหญ่ 8 เที่ยวบิน จำนวน 2,368 คนอีกด้วย" ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่างมุ่งหวังให้การเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ของผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิมทุกคน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยสามารถเดินทางด้วยความสะดวก ปลอดภัย ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศซาอุดิอาระเบียได้อย่างสะดวกสบายสามารถปฏิบัติศาสนกิจได้ครบถ้วนตามหลักศาสนา" ปลัดวธ. กล่าว