ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 นี้ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตที่ใช้อ้างอิง (anchor rating) หนึ่งอันดับเพื่อสะท้อนถึงความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risk) ที่มากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิเนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีสถานะด้อยสิทธิ ข้อกำหนดสิทธิที่สำคัญของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวคือเรื่องปัจจัยที่แสดงว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ (non-viability trigger) ทั้งนี้มีการกำหนดไว้ว่าธนาคารจะมีสถานะเป็นธนาคารที่ไม่สามารถดำเนินกิจการได้เมื่อธนาคารกลางหรือทางการตัดสินใจเข้าให้การช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคารเพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ และผู้ถือหุ้นกู้จะต้องรองรับผลขาดทุนในลักษณะการตัดเป็นหนี้สูญบางส่วนได้ (partial write-down) หรือทั้งจำนวน (full write-down) แต่ไม่ได้บังคับตัดหนี้สูญทั้งจำนวน (mandatory full write-down)
นอกจากนี้หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 นี้จะมีสิทธิในการเรียกร้องที่สูงกว่า (senior) เมื่อเทียบกับตราสารที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่มีคุณสมบัติสามารถรองรับผลขาดทุนได้ (loss absorption feature) ในกรณีที่มีเหตุการณ์ให้เกิดการตัดหนี้สูญ หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 นี้จะถูกตัดเป็นหนี้สูญในสัดส่วนที่เท่ากัน (pari passu) กับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ที่มีคุณสมบัติสามารถรองรับผลขาดทุนได้โดยการตัดเป็นหนี้สูญ ชุดอื่นๆ ที่ออกโดยธนาคาร
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KBank ที่ ‘AA(tha)’ ซึ่งถูกใช้เป็นอันดับเครดิตที่ใช้อ้างอิงนั้นพิจารณาจากความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารเอง โดยสถานะทางการเงินโดยรวมของธนาคารถือว่าเป็นตัวชี้วัดที่ดีที่สุดสำหรับความเสี่ยงที่ผู้ถือตราสารหนี้ของธนาคารจะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดการณ์ (non-performance risk) ซึ่งก็คือความเสี่ยงที่ธนาคารจะมีสถานะเป็นธนาคารที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อได้ (non-viable) ทั้งนี้ ฟิทช์ ไม่ได้มีการปรับลดอันดับเครดิตลงเพิ่มเติมจากอันดับเครดิตที่ใช้อ้างอิงเนื่องจากหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่ได้มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption feature)
ความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารสะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจ (franchise) ในประเทศที่แข็งแกร่งของธนาคาร คุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น เสถียรภาพในด้านการระดมทุน (funding) รวมทั้งฐานะเงินกองทุนที่อยู่ในระดับดีและความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
การเปลี่ยนแปลงของสถานะความแข็งแกร่งทางการเงินโดยรวมและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KBankอาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของหุ้นกู้นี้
สภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจและสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอลงอาจส่งผลกระทบทางลบต่ออันดับ-เครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Issuer Default Ratings) อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (หรือ Viability Rating) และอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ของ KBank การปรับตัวแย่ลงของคุณภาพของสินทรัพย์ที่ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรหรือฐานะเงินกองทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของ KBank ในขณะเดียวกันโอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตในช่วง 1-2 ปีข้างหน้ามีค่อนข้างจำกัด
อันดับเครดิตของ KBank ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการประกาศอันดับเครดิตในครั้งนี้ มีดังนี้:
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ ‘BBB+’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ ‘F2’
- อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ ‘bbb+’
- อันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘2’
- อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำที่ ‘BBB-’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+(tha)’
-อันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของโครงการหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน Euro Medium Term Note (EMTN) มูลค่ารวม 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯที่ ‘BBB+’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันที่ ‘BBB+’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ (หุ้นกู้ที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์ Basel II) ที่ ‘AA-(tha)’