"สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล" อุทยานสัตว์น้ำกลางกรุง แหล่งเรียนรู้โลกใต้ทะเลใหม่ พร้อมเปิด 9 ธ.ค.นี้แน่นอน

พุธ ๐๗ ธันวาคม ๒๐๐๕ ๑๔:๑๘
กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
มร.เจฟ ออลสัน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สยาม โอเชี่ยน เวิลด์ จำกัด เปิดเผยว่า วันที่ 9 ธันวาคมนี้จะเป็นโอกาสสำคัญที่คนไทยจะได้มีแหล่งท่องเที่ยวมาตรฐานระดับโลกเพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพมหานคร นั่นคือสยาม โอเชี่ยล เวิร์ล อุทยานสัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งใช้งบลงทุนถึง 1.2 พันล้านบาท เพื่อเนรมิตอุทยานใต้น้ำขนาด 10,000 ตารางเมตร เทียบเท่าสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐานสากล 2 สนาม ตั้งอยู่ที่ชั้น บี1 และบี2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยรวมเอาสัตว์น้ำทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มกว่า 30,000 ตัวจากกว่า 400 ชนิดมาจัดแสดงในพื้นที่ซึ่งแบ่งออกเป็น 7 โซน โดยแต่ละโซนถูกออกแบบขึ้นเป็นพิเศษภายใต้แนวคิดที่ต้องการสร้างบรรยากาศเหมือนกำลังเดินอยู่ใต้ท้องทะเลจริงๆ
"เราเชื่อว่าการเปิด สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ถือเป็นปรากฎการณ์สำคัญอีกครั้งหนึ่งของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยจะมีอุทยานสัตว์น้ำกลางกรุงที่มีมาตรฐานระดับโลกซึ่งใช้เทคโนโลยีทันสมัยในการก่อสร้างและบริหารงาน ยกตัวอย่างเช่น ระบบกรองน้ำทะเลเทียมที่ใช้ภายในอะควาเรี่ยมนั้นเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีมูลค่าถึงกว่า 10 ล้านบาท เพื่อให้มั่นใจว่า สัตว์น้ำในความดูแลของเราจะอยู่อย่างมีความสุขเหมือนเมื่อพวกมันอยู่ในสภาวะแวดล้อมตามธรรมชาติ ขณะเดียวกันสัตว์น้ำบางชนิด อาทิ ฉลามเสือทราย ยังเป็นสัตว์ที่ไม่เคยมีการจัดแสดงในประเทศไทยมาก่อนด้วย" มร.ออลสันกล่าว
สำหรับแผนการตลาดในช่วงสามเดือนแรกหลังเปิดทำการ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล จะมุ่งเน้นการสร้างการรับรู้อย่างกว้างขวางในหมู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งเน้นที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นหลัก จากนั้นจึงเริ่มทุ่มงบประมาณด้านสื่อโฆษณาในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ซึ่งโดยทั่วไปถือเป็นช่วงไฮ-ซีซั่นของสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชม สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ในปีแรกประมาณ 1.55 ล้านคน ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวพิจารณาจากขนาดและศักยภาพของตลาดในประเทศไทย ความได้เปรียบเรื่องทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ทำให้เดินทางสะดวก รวมทั้งความพิเศษของประสบการณ์ตื่นตาตื่นใจที่สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล เตรียมนำเสนอต่อผู้บริโภคซึ่งหาไม่ได้จากแหล่งท่องเที่ยวหรือสถานบันเทิงอื่นๆ
สำหรับโซนที่คาดว่าจะได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากผู้เข้าชม ได้แก่ โซน Rain Forest ซึ่งจำลองสภาพป่าดิบชื้นตามธรรมชาติเพื่อนำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์และพืชที่อาศัยอยู่ร่วมกันในป่าดิบชื้น และจัดแสดงปลาน้ำจืดพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งสัตว์อื่นๆ ได้แก่ ปลาปอดโบราณ รวมทั้งสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่หาได้ยากในปัจจุบัน โซน Deep Reef ซึ่งจัดแสดงความสวยงามตระการตาของแนวปะการังที่มีอยู่ในโลก ภายในแทงค์ที่มีความสูงถึง 8 เมตร และ Open Ocean พื้นที่วงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10.5 เมตร ซึ่งจัดแสดงชีวิตสัตว์ใต้ทะเลแบบรอบทิศทาง 360 องศา
มร.ออลสัน กล่าวทิ้งท้ายว่า "สิ่งที่ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ให้ความสำคัญที่สุดตั้งแต่วันแรกของการตกลงใจก่อสร้างอะควาเรี่ยมในประเทศไทย นั่นคือ การมอบประสบการณ์โลกใต้น้ำอันน่าตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าชม รวมทั้งส่งเสริมให้เยาวชนได้รับความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับระบบนิเวศวิทยาของสัตว์และพืชใต้น้ำควบคู่ไปกับความเพลิดเพลินจากการเที่ยวชมภายในอะควาเรี่ยมของเราผ่านกิจกรรมหลากหลายที่จัดเตรียมไว้ รวมทั้งเรายังมีเจ้าหน้าที่ซึ่งผ่านการฝึกอบรมเป็นอย่างดีเพื่อคอยให้ความรู้และตอบข้อซักถามแก่ผู้สนใจอีกด้วย"
นอกจากนี้ เหล่าพันธมิตรทางธุรกิจ ประกอบด้วย ทรู เนสท์เล่ ซันโย เชฟโรเลต ฟูจิ เป๊ปซี่ แบงก์ แอนด์ โอลุฟสัน มาเรส และ แท็ก ฮอยเออร์ ต่างก็ยืนยันความพร้อมในการผนึกกำลังกับสยาม โอเชี่ยน เวิร์ล เพื่อผลักดันให้อุทยานสัตว์น้ำแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงตั้งแต่วันเปิดทำการวันแรกในวันที่ 9 ธันวาคม ซึ่งในช่วงบ่าย สยาม โอเชี่ยน เวิลด์ จะได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล อย่างเป็นทางการด้วย
อุทยานสัตว์น้ำ "สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล" ก่อตั้งและบริหารงานโดย โอเชียนิส ออสเตรเลีย กรุ๊ป ผู้ประกอบธุรกิจอุทยานสัตว์น้ำอันดับหนึ่งของโลก ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากว่า 15 ปี ด้วยเงินลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท และเป็นอุทยานสัตว์น้ำมาตรฐานโลก เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-22.00 น. อัตราค่าเข้าชมสำหรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้แก่ ผู้ใหญ่ 450 บาท และเด็ก (สูง 80-120 ซม.) ราคา 280 บาท สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล และเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกค้าทุกท่าน ทรู ได้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่สนใจจะซื้อบัตรเข้าชม สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล โดยสามารถซื้อได้ที่ ทรู และ ออเร้นจ์ ช้อป ซึ่งลูกค้าทรู และออเร้นจ์ ช้อป ซึ่งลูกค้าทรู และออเร้นจ์ จะได้ส่วนลดพิเศษ พร้อมทั้งได้สิทธิพิเศษในการเข้าชม ผ่าน fast track lane ซึ่งจัดเตรียมเป็นช่องทางพิเศษสำหรับลูกค้าทรู และ ออเร้นจ์ หรือสามารถซื้อบัตรเข้าชมผ่านเว็บไซต์ www.weloveshopping.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ปรมพร ปุ้ยพันธวงศ์ (ปูน)
โทร. 02-204-8213 หรือ 01-702-6677
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ