นายทัศน์ วนากรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) (KBS) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทมิตซุยจากประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ Mitsui & Co.,Ltd. และ Mitsui Sugar.Co.Ltd. ได้ใช้สิทธิแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวนรวม 50 ล้านหน่วย แปลงเป็นหุ้นสามัญในสัดส่วน 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ในราคาใช้สิทธิ 12.70 บาท ทำให้กลุ่ม KBS จะมีเงินทุนเพิ่มเติมจำนวน 635 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการลงทุนในโครงการขยายงานของกลุ่ม KBS
“การที่ผู้ถือหุ้นกลุ่มมิตซุยใช้สิทธิ์แปลงวอแรนต์เป็นหุ้นสามัญเต็มทั้งจำนวนในราคา 12.70 บาท/หุ้น แม้วอแรนต์ดังกล่าวจะอยู่ในสถานะ Out-of-the Money แสดงถึงความเชื่อมั่นของกลุ่มมิตซุยที่มีต่อบริษัท บริษัทจะใช้เงินทุน 635 ล้านบาท ที่ได้จากการใช้สิทธิครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนโครงการลงทุนหลักของบริษัท เพื่อมุ่งสู่การเป็นชูการ์เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อย่างสมบูรณ์”
นายทัศน์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทอยู่ระหว่างการขยายการลงทุนครั้งใหญ่ เพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัทให้แกร่งยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้โรงงานของบริษัทเป็น "ชูการ์เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์" ที่สมบูรณ์ภายในปี 2558/59 หรืออย่างช้าในปี 2559/60 โดยบริษัทจะลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตอีก 12,000 ตันอ้อย/วัน หรือเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50% ของกำลังการผลิตปัจจุบัน อีกทั้งจะก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลกำลังการผลิต 200,000 ลิตร/วัน ทั้งสองโครงการจะต้องใช้เงินลงทุนรวม 4,291.7 ล้านบาท โดยบริษัทได้รับการสนับสนุนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเป็นแหล่งเงินทุนหลักของโครงการ ประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากเงินทุนหมุนเวียนจากการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท รวมถึงเงินเพิ่มทุนที่ได้จากการใช้สิทธิของกลุ่มมิตซุยในครั้งนี้
กลุ่มมิตซุย เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของ KBS ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2556 และมีสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจต่อกันโดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาธุรกิจน้ำตาลและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อเสริมศักยภาพและมูลค่าเพิ่มให้ KBS ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การซื้อขายน้ำตาลระหว่างกันเพื่อส่งเสริมจุดแข็งในการเป็นผู้นำในตลาดน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ของ KBS ความร่วมมือเพื่อพัฒนาเทคนิคและประสิทธิภาพการผลิตของ KBS และการร่วมมือด้านการตลาดในการจำหน่ายน้ำตาลคุณภาพสูงในตลาดต่างประเทศ
ที่ผ่านมา การทำงานร่วมกันระหว่าง KBS และกลุ่มมิตซุยเป็นไปได้ด้วยดี มีการพัฒนาในด้านต่างๆ เป็นลำดับขั้น ถือว่าบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ การใช้สิทธิครั้งนี้จะทำให้กลุ่มมิตซุยเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจากร้อยละ 9.1 เป็นร้อยละ 16.7 เป็นการยืนยันความสัมพันธ์ของกลุ่ม KBS และกลุ่มมิตซุยที่แน่บแน่นยิ่งขึ้น จากนี้ต่อไปทั้งสองกลุ่มจะทำงานใกล้ชิดยิ่งขึ้นเพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ โดย KBS มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรม อ้อย น้ำตาล และชีวพลังงาน การมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างกลุ่มมิตซุย จะสนับสนุนสร้างความความได้เปรียบเพิ่มเติมให้กลุ่ม KBS โดยเฉพาะการขยายตลาดในต่างประเทศหลังจากมีการเปิด AEC ในปี 2015 นายทัศน์ กล่าวในที่สุด