นโยบายด้านครอบครัวใด ที่ครอบครัวไทยอยากได้จากรัฐบาลทักษิณ 2

พฤหัส ๐๓ มีนาคม ๒๐๐๕ ๑๖:๒๙
กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--สถาบันครอบครัวรักลูก
โครงการครอบครัวเข้มแข็ง สถาบันครอบครัวรักลูก ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด พบว่าครอบครัวไทยต้องการพื้นที่สาธารณะและกิจกรรมสร้างสรรค์ค์สำหรับเด็กและเยาวชนมากที่สุด รวมถึงต้องการให้รัฐดูแลสื่ออย่างเข้มงวด อยากได้ โรงเรียนพ่อแม่ และการเรียนรู้ต่อเนื่องเพื่อปรับตัวให้ทันสภาพสังคม คุณสุภาวดี ชี้รัฐบาลจะทำเรื่อง “ครอบครัว” สำเร็จต้องเห็นโอกาสในความต้องการของครอบครัวไทย
นางสุภาวดี หาญเมธี ประธานสถาบันครอบครัวรักลูก เปิดเผยว่า เราได้ทำการสำรวจความคิดเห็นจากประชาชน จำนวน 2,093 คน ในกรุงเทพฯ และพื้นที่ 8 จังหวัดนำร่องของโครงการ “สร้างเสริมศักยภาพการเรียนรู้เพื่อครอบครัวเข้มแข็ง”(โครงการครอบครัวเข้มแข็ง) ซึ่งได้แก่ จ.พะเยา ลำปาง น่าน กาฬสินธุ์ สุรินทร์ สุราษฎร์ ตรัง พัทลุง-สงขลา ต่อเรื่อง “ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเรื่องครอบครัวต่อรัฐบาล” ที่ทางสถาบันฯจัดทำ
ปรากฏผลการสำรวจพบว่า ประชาชนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดต้องการให้รัฐจัดพื้นที่สาธารณะและกิจกรรมสร้างสรรค์ค์สำหรับเด็กและเยาวชน อย่างเพียงพอถึง 69 % ของผู้ออกความคิดเห็นทั้งหมด, ต้องการให้รัฐบาลมีมาตรการควบคุมสื่ออย่างเข้มงวด 66% ประชาชนต้องการให้รัฐจัดการเรียนรู้ให้ครอบครัวใหม่ทุกครอบครัวเรื่องการพัฒนาครอบครัวก่อนการมีลูก 58% และ 53% ต้องการให้รัฐลดหย่อนภาษี แก่บุตรหลานที่ดูแลผู้สูงอายุ ทั้งนี้มีจำนวนครอบครัวไทยถึง 52 % ของความคิดเห็นทั้งหมดที่ต้องการให้รัฐจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาครอบครัวตนเองอย่างต่อเนื่อง
เรื่องของวัยรุ่นนั้น ประชาชนเห็นว่าควรให้มีการสอนเรื่องบทบาททางเพศ และครอบครัวศึกษาแก่เยาวชน 49 % และนโยบายให้หญิงคลอดลูกลาหยุดได้ 1 ปี และพ่อหยุดงานช่วยดูแลได้ระยะหนึ่ง เช่นในต่างประเทศนั้นมี 45 % ที่เห็นด้วย 42% มีความต้องการให้ครอบครัวตนมีการเรียนรู้และเข้าใจสภาพและการเปลี่ยนแปลงของแต่ละช่วงวัย ส่วนเรื่องการให้ข้าราชการย้ายครอบครัวไปอยู่ด้วยในจังหวัดเดียวกัน คิดเป็น 34 % ของความคิดเห็นทั้งหมด ความต้องการมาตรการส่งเสริมอื่นเช่นให้ลดค่าเดินทางเป็นครอบครัว มีแค่ 28 % และต้องการให้สถานประกอบการมีที่เลี้ยงเด็กมีเพียง 21 %
นางสุภาวดี ชี้ว่าผลการสำรวจความคิดเห็นทั้งคนในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดออกมาในทิศทางที่คล้ายกันมาก สะท้อนให้เห็นว่าหัวอกพ่อแม่ไทยไม่ว่าอยู่ที่ไหนต่างมีปัญหาเช่นเดียวกันคือในสังคมไทยไม่มี”ที่”และ”ทาง”ดีๆให้เด็กเดินอย่างเพียงพอ จึงเกิดปัญหาสังคมต่างๆอย่างมากมาย พ่อแม่ต้องการให้ภาครัฐมาเอาใจใส่สิ่งเหล่านี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการจัดการเรื่องสื่อที่เข้าไปถึงห้องนอน และอยู่กับ “ลูกหลาน”มากกว่าที่พ่อแม่ได้อยู่ด้วย และเป็นที่น่าสังเกตอย่างยิ่งว่า พ่อแม่ไทยต้องการการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องในเรื่องครอบครัว ตั้งแต่อยากให้โรงเรียนสอนเยาวชนเข้าใจเรื่องบทบาทชายหญิงและครอบครัวศึกษา ครอบครัวใหม่ต้องการความรู้ก่อนที่จะมีลูก พ่อแม่ต้องการความรู้และพัฒนาครอบครัวตนเองไปในกระแสโลกาภิวัตน์อย่างรู้เท่าทันในแต่ละช่วงวัยของชีวิต ซึ่งที่ผ่านมาหลายสิบปีโดยเฉพาะตั้งแต่ประกาศแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 ครอบครัวไทยที่เกาะเกี่ยวแน่นแฟ้นเป็นปึกแผ่น ถูกทิศทางการพัฒนาประเทศที่เอา “เงิน” และ “ตัวเลข” เป็นตัวตั้ง ทำให้ครอบครัวเล็กลง แตกสานซ่านเซ็น ต่างคนต่างอยู่ แม้อยู่บ้านเดียวกันก็เป็นการอยู่แบบที่คนใต้บอกว่าพ่อแม่ลูกเดี๋ยวนี้ “กินคนหน นอนคนแห่ง แล่งไม่พูด(ถามไม่ตอบ)”
พ่อแม่และครอบครัวไทย สะท้อนความต้องการเรียนรู้ออกมาหลายเรื่องมาก เป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาล ซึ่งประกาศไว้ว่าช่วง 4 ปีข้างหน้าจะเป็น 4 ปีที่รัฐบาลจะ “สร้าง” ประเทศไทยต้องรับฟังอย่างตั้งใจ และเห็นโอกาสที่จะนำความเรียกร้องต้องการในใจของคนเป็นล้านๆครอบครัวนี้นำไปทำเป็นนโยบายอย่างจริงจัง สมกับเป็นนโยบายหนึ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญคือนโยบายเรื่องครอบครัว ประเทศไทยจะ “ดี”ได้ คนไทยต้อง “ดี” เยาวชนจะเติบโตเป็นคน “ดี”ได้ครอบครัวเป็นฐานที่มั่นคงที่สุด พลังความรักลูก + พลังรักครอบครัว คูณด้วยการเรียนรู้ จะนำไปสู่ศักยภาพการจัดการ แก้ปัญหาและพัฒนาตนเองของครอบครัวไทยทบเท่าพันทวีไม่รู้จบ”นางสุภาวดีกล่าวในที่สุด
ทางสถาบันรักลูกได้ร่วมกับนักวิชาการ และผู้ที่ทำงานด้านครอบครัวระดมสมองกัน เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อรัฐบาล เพื่อให้ทราบถึงปัญหาและความต้องการของครอบครัวไทยที่แท้จริง และรอบด้านมากขึ้น โดยจะมอบให้ตัวแทนรัฐบาล ในวันที่ 11 มีนาคม ที่จะถึงนี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ประชาสัมพันธ์ โครงการครอบครัวเข้มแข็ง สถาบันครอบครัวรักลูก
โสภิดา ธนสุนทรกูร (แบม)
โทรศัพท์ 0 2913 7555 ต่อ 4640 โทรสาร 0 2831 8499--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version