เปิดรายการกันที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย MOCA BANGKOK โดยมีเจ้าของพิพิธภัณฑ์ คุณบุญชัย เบญจรงคกุล พาพี่ดู๋เดินชมด้วยตัวเอง อาทิ ห้องจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้ง ศาสตาจารย์ ศิลป์ พีระศรี ซึ่งดูเหมือนจริงมาก ห้องทำงานของตัวเอง และชมภาพเขียนอีกมากมาย โดยเฉพาะภาพของอาจารย์ ถวัลย์ ดัชนี 7 ชิ้นที่เจ้าตัวรักมากถึงขั้นทำพินัยกรรมห้ามลูกหลานขายเป็นอันขาด คุณบุญชัยพาเดินชมพิพิธภัณฑ์ไปพร้อมกับเล่าเรื่องราวชีวิตแนวคิดที่น่าสนใจ ในการทำธุรกิจและจุดพลิกผันที่มาสนใจงานศิลปะจนเกิดพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย MOCA BANGKOK แห่งนี้ และเรื่องราวศิลปะอีกเช่นกันที่ทำให้มาเจอกับ ตั๊ก บงกช ครั้งแรกที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ และผูกพันธ์แต่งงานเป็นครอบครัวเดียวกันจนมีน้องข้าวหอม ในทุกวันนี้
ฝ่ายตั๊กก็แยกตัวพาลิงและนุ่นเดินชมห้องศิลปะต่างๆ พร้อมทั้งบอกเล่าเรื่องราว ความชอบด้านศิลปะของตัวเอง พาชมรูปประเด็นที่ตั๊กเป็นต้นแบบรูปนางพิมให้คุณบุญชัยวาดรูปวรรณคดี ขุนช้างขุนแผน โดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อ 11 ปีที่แล้ว เพราะคุณบุญชัยเอาภาพตั๊กมาจากการเป็นแบบในหนังสือสกุลไทย และเล่าเรื่องที่ได้มาพบกับคุณบุญชัยที่นี่เป็นครั้งแรก จนเกิดเป็นความรัก
จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย MOCA BANGKOK ทุกคนมารวมตัวกันที่ โรงแรม Grande Centre point (Terminal21) มานั่งคุยกันถึงเรื่องราวความรักในครั้งนี้ของคุณบุญชัย และ ตั๊ก ซึ่งทั้งคู่มาเล่าแบบเปิดใจตั้งแต่การได้รู้จัก คุยกัน จนกระตั้งมีลูกด้วยกัน มาฟังบางส่วนของพูดคุยในรายการ
“ก่อนที่จะได้เจอตั๊ก คุณบุญชัยได้เคยตั้งความหวังเรื่องการมีชีวิตคู่ไว้บ้างไหม หรือปลงแล้วไม่ต้องการใช้ชีวิตร่วมกับใครแล้ว?? คุณบุญชัย : ก็มีคิดว่าอยากได้ลูกชายอีกคนนึง แล้วก็ขอว่าให้ลูกชายคนนี้มาแล้วอยากเป็นพระ แล้วเราก็ไปขอกับหลวงปู่ ที่เราอยากมีทายาทก็เพราะเราอ่านหนังสือเล่มนึง ผู้เขียนท่านเป็นพระแล้วท่านก็ไปเที่ยวที่นครวัด แล้วท่านก็ไปเจอนางอัปสร แล้วนางอัปสรก็เล่าประวัติของนครวัดให้ฟังย้อนไป 1000 ปี ท่านเลยถามว่าพาไปอนาคตได้ไหม ท่านอยากไปดูอนาคตว่าประเทศไทยจะอยู่อย่างไร พระพุทธศาสนาจะเป็นยังไง ท่านก็บอกว่ามาถึง 1000 ปีข้างหน้าพระพุทธศาสนาจะเจริญมากในเมืองไทย จะมีตระกูลของผู้นำบุญเก่าๆแก่ แล้วท่านก็บอกว่ามีตระกูลเบญจรงคกุลด้วย เราก็มานั่งคิดว่า 1000 ปีนี่ก่อนพ่อขุนรามคำแหง มันทำให้เรารู้ว่านานมากกว่าจะมีใครไปวัด นอกจากว่าจะมีคนในครอบครัวเป็นพระไปเลยจะได้เป็นการเรียกญาติๆให้เข้าวัดกัน อย่างน้อยเราก็เชื่อว่าถ้าตระกูลยั่งยืนได้ขนาดนั้น เรื่องอื่นก็ไม่ต้องห่วงหรอก คือคนไปทำบุญได้แสดงว่าต้องมีตังค์ แล้วยังไม่เคยเห็นตระกูลไหนอยู่ถึง 1000 ปีเลย แล้วถ้าน้องข้าวหอมไม่ได้เป็นพระล่ะ?? บุญชัย : ก็ไม่เป็นไร เราอย่าไปบังคับเขา แต่ถ้าเราปลูกฝังเขาด้วยพฤติกรรมบ่อยๆ แล้ววันนึงเขามานั่งดูเทปรายการนี้ที่เราคุยกัน เขาอาจจะคิดได้ไง ตั๊ก : ส่วนตั๊กคิดว่าแล้วแต่ลูก คือตั๊กคิดว่ามันแปลกดีนะที่ตั๊กท้องเร็วมากๆ ตั๊กไม่รู้นะว่าพี่เขาเคยไปขอลูกไว้ก่อนหน้านี้ แล้วไม่คิดว่าจะได้ลูกชายด้วย ซึ่งพี่ใหญ่เขาขอลูกชายก็ได้ลูกชายจริงๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงหนีไม่พ้น คือพี่ใหญ่เขาขอว่าอยากให้เป็นพระ พอหลวงปู่ให้มาตั๊กเชื่อว่าก็ต้องเป็นพระอยู่แล้ว แม่ได้สอนเรื่องหลักการครองเรือนอะไรตั๊กบ้างไหม ?? ตั๊ก : ก็บอกว่าให้เราจงรักภักดี จะเลิกก็เลิกกันไปก่อนอย่าเพิ่งไปมีใครเพราะมันน่าเกลียด จะคุยกับผู้ชายคนไหนก็หัดมองซ้ายมองขวาบ้างเพราะเราแต่งงานแล้ว บางทีอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิด แม่เคยพูดก่อนยังไม่แต่งงานว่าถ้าจะนอนอย่านอนเสมอ ก่อนนอนก็ให้กราบเท้า จริงๆ สำหรับพี่ใหญ่ถ้าเราจะกราบเท้าเขาก็ไม่ผิดเลย เพราะเขาเป็นคนดี ตั๊กคิดว่าเรามาถึงที่สุดแล้ว เพราะตั๊กก็อยากได้คนที่เป็นที่พึ่ง ในเรื่องของความคิด อย่างเราเคยไปไหว้พระแล้วก็ขอว่าให้เจอคนที่รักจริง ถ้าเกิดไม่มีก็ไม่ต้องเจอเลยดีกว่า แต่ลืมขอพระไปด้วยว่าขอให้ได้คนอายุน้อยๆไง มีมุมสวีท โรแมนติกไหม ?? ตั๊ก : มีคะ แต่ส่วนใหญ่ตั๊กจะเป็นคนทำให้เขา อย่างจัดดอกไม้ในวันวาเลนไทน์ บางทีนัดเจอในร้านอาหารตั๊กก็จะซื้อดอกไม้มา 1 ช่อ แล้วก็ยื่นให้เขา ทั้งๆที่เจอกันทุกวัน เอาจริงๆนะพี่ทุกวันนี้สิ่งที่เขาผิดมีอยู่ 2 อย่างคือ 1 มีอายุ และ 2 คือเขาแต่งงานแล้ว นอกนั้นพอเราอยู่กับเขาแล้วมันก็โอเคทุกอย่างเลย เพราะเขาเป็นคนที่ให้เกียรติผู้หญิงมันเลยทำให้คนอื่นดูว่าเราเป็นซินเดอเลล่า แต่เราชอบเขาก็ไม่ใช่เพราะเงิน แต่เพราะเรารักเขาจริง อยากอยู่กับเขา อยากมีลูกกับเขา”
ยังมีอีกหลายคำถามและคำตอบจากใจของคู่รักต่างวัย “คุณตั๊ก บงกช และ คุณบุญชัย” ให้ได้ติดตามชมกันในรายการ “ที่นี่หมอชิต” คืนวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายนนี้ ทางช่อง 7