คุณ “นพกร ทองมั่น” เปิดเผยว่า “หลายสิบปีที่ผ่านมา เราอยู่ในจุดที่ content และช่องทางมีจำกัด ผู้ผลิตหรืออุตสาหกรรมการผลิตในธุรกิจบันเทิงไทยมักจะเป็นผู้กำหนดเนื้อหาและรูปแบบรายการบนพื้นฐานของ Business model แบบเดิมๆ คนดูจึงไม่มีทางเลือกมากในการเข้าถึง content ณ วันนี้ อุตสาหกรรมเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งโครงสร้าง hardware จึงส่งผลต่อ content ซึ่งเป็น software ในทางบวกอย่างชัดเจน จึงเหมือนเรากำลังก้าวข้ามอุตสาหกรรมยุคเก่าทำให้ผู้ชมในวันนี้ มีพลังมากขึ้นในการเลือกรับ content ที่ดี น่าสนใจและเข้าถึงได้ ทำให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมบันเทิงและโทรทัศน์ตื่นตัวมากขึ้น แน่นอนย่อมส่งผลต่อการโฆษณาที่กำลังมองหา เครื่องมือสื่อสารทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพกว่าชิ้นงานโฆษณา
การแข่งขันของอุตสาหกรรมบันเทิงและโทรทัศน์ในวันนี้มีความเข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากช่องทางที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จึงมีผู้ให้ความสนใจเข้าสู่ตลาดนี้มากมาย ในขณะที่เม็ดเงินในอุตสาหกรรมมีเท่าเดิม จึงส่งผลกระทบให้ผู้ผลิต content ต้องทำงานหนักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ภายใต้สภาพการแข่งขันที่เข้มข้นนี้ Content LAB เล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจ จึงเปิดตัวขึ้นมาเป็นโปรดักชั่นเฮ้าส์แนวใหม่ ด้วยการสร้างเซกเม้นท์ทางธุรกิจผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ Commercial Production House ด้วยความเชื่อที่ว่า ความคาดหวังจากผู้ชมที่มากขึ้นทุกวัน อุตสาหกรรมขยายตัว และงานที่จะนำเสนอมีความแตกต่าง ที่จะทำให้ Content LAB ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ได้ไม่ยาก และ Content LAB มีจุดเด่นที่จะสามารถอยู่บนธุรกิจนี้ได้ คือ ความเชี่ยวชาญด้าน Creative, Media, Production และ International format licensing ซึ่ง Content LAB มองเป้าหมายทางธุรกิจไว้ 2 อย่าง คือ ข้อแรกตั้งเป้าว่าบิลลิ่งจะอยู่ที่ 250 ล้านบาทใน 2 ปี โดยจะมีการ
ผลิตรายการประมาณ 5 รายการ ในระยะเริ่มต้น ให้กับสถานีโทรทัศน์พันธมิตรถึง 5 ช่อง พร้อมกับการส่งรายการไปขายในต่างประเทศ 1-2 รายการ ข้อสองคือ Content LAB มุ่งมั่นที่จะเป็น Strategic Production Partner ผู้นำใน Segment ใหม่เพื่อเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพให้กับคู่ค้าทั้ง สถานีโทรทัศน์ เอเจนซี่ และแบรนด์ ต่างๆ ซึ่งมองหาความสำเร็จในรูปแบบการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ภายใต้การผลิต content คุณภาพระดับสากล ดังจะเห็นได้จาก Junior Bake Off ของ NOW26 และ KEEP YOUR LIGHT SHINING ซึ่งจะมาเติมเต็มความคาดหวังของ สถานีโทรทัศน์พันธมิตร เอเจนซี่พันธมิตร และแบรนด์พันธมิตรจากนี้และต่อไปในอนาคต “ผมเชื่อว่าการซื้อขายในอุตสาหกรรมต่างประเทศมันใช้เวลา ใน 3 ปีแรก เราจะเห็นธุรกรรมที่เกิดขึ้นทั้ง ในประเทศและต่างประเทศชัดเจน ซึ่งรายได้จะมาจากทั้ง 2 ทางคือการผลิตและบริหารลิขสิทธิ์รายการต่างประเทศ เพื่อออกอากาศในเมืองไทย และการสร้างรูปแบบรายการใหม่แบบสากลเพื่อขายไปยังต่างประเทศ ขณะเดียวกันทั้งหมดนี้ เป็นสิ่งที่คอนเทนท์แล็บมุ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมนี้ เพื่อร่วมกันนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ที่ดีให้กับคนดู จนกระทั่งมีคำพูดที่ว่า “That’s my….” ถ้าเป็นสถานีโทรทัศน์ผมอยากให้เค้ารู้สึก “That's my image” ที่จะมีรายการโทรทัศน์ดีๆ จากคอนเทนท์แล็บ หรือถ้าเป็นลักษณะของสปอนเซอร์ “That’s my branded content” สิ่งที่คอนเทนท์แล็บนำเสนอ อยากให้เค้ารู้สึกเป็นเจ้าของ หรือในสายตาของเอเจนซี่ ผมอยากให้เค้าภูมิใจที่ได้ทำงานกับคอนเทนท์แล็บ “That’s my show case” เพราะเอเจนซี่นอกจากจะทำกำไรแล้ว เค้ายังต้องการรางวัลการันตีคุณภาพของผลงานในแต่ละปี สุดท้ายผลประโยชน์ทั้งหมดก็ตกอยู่กับคนไทย” คุณนพกร ทองมั่น” กล่าวทิ้งท้าย