นางสาวธิดาสินี ศรีศักดิ์ดา รองนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่า ในปีนี้ทางสโมสรนักศึกษามีการประชุมเตรียมความพร้อมระหว่างสโมสรนักศึกษากับคณะต่างๆ และการประชุมเตรียมความพร้อมกับผู้บริหารสถาบันการศึกษา เพื่อวางมาตราการในการดำเนินงานกิจกรรมรับน้องขึ้นดอย โดยในปีนี้มีการแบ่งฝ่ายการทำงานออกเป็น 16 ฝ่าย อาทิ ฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายพิธีการ ฝ่ายพยาบาล ฝ่ายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น สิ่งที่ยังมองว่าเป็นปัญหาในการจัดงานรับน้องขึ้นดอยคือ การจัดการจราจร โดยได้มีความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและจราจรจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะรถสองแถว และรถของนักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นไปสักการะพระธาตุในวันดังกล่าว สำหรับการรณรงค์รับน้องปลอดเหล้า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ตระหนักถึงการปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นพิเศษ เนื่องจากกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ดีงาม และเป็นเขตอุทยาน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมศรัทธาของจังหวัดเชียงใหม่จึงขอความร่วมมืองดดื่มและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท ซึ่งจะมีการตรวจจับและปรับตามกฎหมาย พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และ พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 โดยมีการตั้งด่านจำนวน 3 จุดได้แก่ หน้าสวนรุกชาติเชียงใหม่ , ด่านตรวจห้วยแก้วและชุดเคลื่อนที่เร็ว พร้อมทั้งได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรภูพิงราชนิเวศน์ เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ,สาธารณสุข,ชมรมสร้างเสริมสุขภาพมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะกรรมการกำกับดูแลการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และความประพฤตินักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมดูแลอย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือไปยังรุ่นพี่ ศิษย์เก่าไม่นำเครื่องดื่มมึนเมาเข้ามาในกิจกรรมสำคัญของมหาวิทยาลัยครั้งนี้
รองนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ยังมีฝ่ายใหม่ในการจัดงานประเพณีรับน้องขึ้นดอยคือ ฝ่ายกายภาพ ซึ่งจะเป็นฝ่ายที่สื่อสารและดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการขยะในงานประเพณีรับน้องขึ้นดอยโดยเน้นการทิ้งขยะตามจุดที่ทางสโมสรฯและมหาวิทยาลัยจัดเตรียมไว้ และมีการขอความร่วมมือกับกลุ่มรุ่นพี่และหน่วยงานที่มาจัดบูทกิจกรรมไม่ใช้โฟมโดยการเปลี่ยนมาใช้กระดาษชานอ้อยแทน เพื่อสร้างค่านิยมใหม่ในการดูแลสิ่งแวดล้อม