นโยบายการเงินธนาคารกลางสำคัญกดดัชนีเชื่อมั่นทองก.ย.เผยช่วง7ปีนโยบายการเงินสหรัฐฯทำทองผันผวน

พฤหัส ๑๑ กันยายน ๒๐๑๔ ๑๖:๒๙
ศูนย์วิจัยทองคำเผยดัชนีเชื่อมั่นทองคำเดือน ก.ย. หดตัวลง 13.47 จุดจากเดือนส.ค. มาอยู่ที่ระดับ 42.61 จุด สวนทางตลาดทุน การใช้นโยบายการเงินควบคุมเศรษฐกิจ เหตุวิตกค่าเงินดอลลาร์แข็งหลัง ECB ผ่อนคลายนโยบายการเงิน และปัจจัยการสู้รบผ่อนคลายลง ชี้ยังมีค่าเงินบาทผันผวนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ด้านผู้ค้ารายใหญ่เชื่อทองทรงตัวเดือนกันยายน ราคาระหว่างเดือนน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 18,900-20,200 บาทต่อบาททองคำ เผยนโยบายการเงินสหรัฐฯ ในช่วง 7 ปี ทำตลาดทองผันผวนหนัก

นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนกันยายน 2557 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำปรับตัวลดลงจากเดือนสิงหาคมมาอยู่ที่ระดับ 42.61 จุด หรือลดลง 13.47 จุด ต่ำกว่าระดับ 50 จุด สะท้อนทัศนคติในเชิงลบต่อราคาทองคำระหว่างเดือน โดยมุมมองดังกล่าวสอดคล้องกันทั้งกลุ่มผู้ลงทุนทองคำและกลุ่มผู้ค้าทองคำ ซึ่งได้รับแรงกดดันมาจากการส่งสัญญาณด้านนโยบายการเงินและการตอบรับต่อความเสี่ยงในการสู้รบในตะวันออกกลาง-ยูเครนที่คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ขณะที่เงินบาทยังคงผันผวนตามปัจจัยภายนอกหลังดอลลาร์สหรัฐฯปรับตัวแข็งค่าขึ้น

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะสามเดือนข้างหน้ายังสะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำในประเทศ แต่ลดลงจากเดือนก่อน โดยค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 56.65 จุด ลดลงจากเดือนก่อน 2.20 จุด ซึ่งสะท้อนว่ากลุ่มตัวอย่างยังเชื่อว่าราคาทองคำมีโอกาสจะปรับตัวขึ้นได้ในอนาคตแต่ระดับความมั่นใจลดลง

สำหรับบทสรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) จากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ ผู้ค้าส่งทองคำ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 11 ตัวอย่าง พบว่าผู้ค้าส่วนใหญ่มีมุมมองราคาทองคำในช่วงเดือนกันยายนจะทรงตัว โดยมีผู้ค้า 3 รายมองทองคำปรับเพิ่มขึ้น อีก 3 รายมองราคาทองลดตัวลงระหว่างเดือน ขณะที่อีก 5 รายมองใกล้เคียงกับเดือนสิงหาคม

ทั้งนี้ ผู้ค้ามองว่าราคาทองคำในตลาดโลกน่าจะมีกรอบราคาสูงสุดอยู่ระหว่าง 1,300-1,330 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,240-1,250 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 95.5%) กลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักราคาสูงสุดที่ 19,600-20,200 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 18,900-19,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ

นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยทองคำได้จัดรวบรวมการใช้นโยบายการเงินและผลกระทบพบว่าการใช้นโยบายการเงินของธนาคารสำคัญมีผลกระทบต่อราคาทองคำในมิติที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะการใช้นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีผลกระทบอย่างมากตั้งแต่การลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายนปี 2550 โดยแบ่งเป็นช่วงการลดดอกเบี้ย 14 เดือนและการใช้นโยบาย QE ตลอด 5 ปี 9 เดือน โดยในช่วงเวลาดังกล่าวฐานเงินของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับ 7.3 ล้านล้าน เป็น 11.4 ล้านล้าน หรือเพิ่มขึ้น 55.25% ขณะที่นโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางยุโรปกลับให้ผลที่แตกออกไป โดยการใช้นโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2554 และธนาคารกลางญี่ปุ่นในปี 2556 ไม่ได้ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น ซึ่งน่าจะมาจากความสัมพันธ์ของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯกับราคาทองคำ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ