สถาบันฯสิ่งทอหนุนพัฒนาเครื่องแต่งกายมุสลิม สวย ดี มีคุณภาพและเป็นสากล

จันทร์ ๑๕ กันยายน ๒๐๑๔ ๑๐:๓๖
กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ จัดสัมมนาสรุปผลโครงการ พัฒนาสิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมในจังหวัดชายแดนใต้ ระยะ 2 โชว์ฝีมือผู้ประกอบการ 5 จังหวัดชายแดนใต้ สวย ดี มีคุณภาพและเป็นสากล ดึง “เมญ่า" นนธวรรณ ทองเหล็ง มิสไทยแลนด์เวิลด์ ประจำปี 2014 ร่วมด้วยทัพนายแบบนางแบบกว่า 30 ชีวิต ในแฟชั่นโชว์สุดอลังการ พร้อมตั้งเป้าหมายเดินหน้า สร้างความร่วมมือและเชื่อมโยงคุณค่าท้องถิ่นกับอุตสาหกรรมสิ่งทอสู่คุณภาพชีวิตที่ดีรองรับ AEC ในปี 2558 โดยมี นายชัยวัฒน์ ศิรินุพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดงาน นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนในความร่วมมือ นายทวี จันทร์สกุล กล่าวต้อนรับ และนายประดิษฐ์ รัตนวิจิตราศิลป์ กล่าวรายงาน เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2557 ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมบุรีศรีภู หาดใหญ่

นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดเผยว่า สถาบันฯ ได้ดำเนินโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ สงขลา ยะลา ปัตตานี สตูล และนราธิวาส ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งแต่ปี 2556 (ระยะที่ 1) มุ่งเน้นสร้างผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมให้ สวย ดี มีคุณภาพ สำหรับในปี 2557 นี้ถือเป็นการดำเนินงานในระยะที่ 2 โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างเข้มข้นมากขึ้น ตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ มุ่งเน้นพัฒนาองค์ความรู้ ทั้งด้านการออกแบบ พัฒนาวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ ครอบคลุมถึงบรรจุภัณฑ์ รวมถึงการขยายช่องทางและโอกาสทางการตลาดในภูมิภาคอาเซียน พร้อมมุ่งเน้นพัฒนารากฐานความรู้และทักษะของนักออกแบบ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยใช้แนวคิดจากประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมภาคใต้ ที่สามารถพัฒนาเป็นลวดลายผ้าอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อพัฒนอาชีพ สร้างงาน สร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างบุคลากร ภายใต้เป้าหมาย สวย ดี มีคุณภาพ และเป็นสากล ซึ่งได้ดำเนินการพัฒนาภายใต้ 4 กิจกรรม ประกอบไปด้วย

กิจกรรมที่ 1 การพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมสู่เชิงพาณิชย์

เน้นการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่การขายจริง โดยจากการดำเนินงานในปีนี้ สถาบันฯ ได้ผลักดัน ผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิม ภายใต้แบรนด์ LAWA@THTI ในคอลเลคชั่น บุหงาสลาตัน 2 ที่มีแรงบันดาลใจมาจากความสวยงามของดอกไม้ในท้องถิ่นทั้ง 5 จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบไปด้วย ดอกหม้อข้าวหม้อแกงลิง ดอกต้อยติ่ง ดอกชงโค ดอกพลับพลึง และดอกอัญชัน โทนสีที่เลือกใช้ในคอลเลคชั่นนี้ คือ สีม่วง สีฟ้า และสีเขียว โดยนำไปจัดแสดงและออกจำหน่ายในงาน Bangkok International Fashion Fair and Bangkok International Leather Fair 2014 (BIFF&BIL) ณ อิมแพคเมืองธานี รวมทั้ง ร่วม Business Matching และแสดงแฟชั่นโชว์ใน งาน Thailand Trade Show 2014 เมื่อวันที่ 19 – 22 มิถุนายน 2557 ณ ประเทศสิงคโปร์ และงานแสดงสินค้าแฟชั่น Hong Kong Fashion Week 2015 ซึ่งได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ สถาบันฯ ยังได้จัดทำเว็บไซต์ http://shop.muslim-thti.org/ สำหรับจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างโอกาสและช่องทางการค้าขายให้กับแบรนด์ LAWA@THTI อีกด้วย

กิจกรรมที่ 2 การถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี ประกอบไปด้วย 3 กิจกรรมหลักคือ

1.กิจกรรมประยุกต์ใช้น้ำยางพาราและพืชให้สี เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นโครงการที่มีความสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มผู้ประกอบการผ้าบาติกที่สามารถช่วยเสริมศักยภาพและสร้างเอกลักษณ์ โดยการนำน้ำยางพาราซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจมาพัฒนาแม่พิมพ์ลวดลายผ้าบาติกและใช้เป็นสารเหลวเขียนลวดลายผ้าบาติก ทดแทนการใช้เทียนและพาราฟิน ลดปริมาณการนำเข้าอุปกรณ์ที่มีราคาแพง อีกส่วนเป็นการย้อมสีธรรมชาติจากพืชให้สีในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น ใบยางพารา เปลือกยางพารา ใบลองกอง เปลือกโกงกาง เปลือกสะเดา ดอกดาหลา ส้มแขก เพิ่มความสวยงามให้กับบาติก โดยพัฒนาและออกแบบตัดเย็บเป็นผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิม 5 คอลเลคชั่น จาก 5 จังหวัดชายแดนใต้ ในคอลเลคชั่น La Para ประกอบไปด้วย

จังหวัดปัตตานี แรงบันดาลใจ : เรื่องราวช่องลมในงานสถาปัตยกรรมโบราณที่สวยงามของจังหวัด

จัวหวัดยะลา แรงบันดาลใจ : ลวดลายความเก่าแก่ของแกนไม้ที่มีความสวยงามของธรรมชาติ

จังหวัดนราธิวาส แรงบันดาลใจ : ความสวยงามของเรือกอและ ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น

จังหวัดสตูล แรงบันดาลใจ : ความสวยงามของน้ำในท้องทะเล

จังหวัดสงขลา แรงบันดาลใจ : สถาปัตยกรรมเมืองเก่าแก่ อารยธรรมโบราณ

2.กิจกรรมการพัฒนาโครงสร้างผ้าทอในจังหวัดสงขลา โดยพัฒนา 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ

2.1. กลุ่มร่มไทรพัฒนาผลิตภัณฑ์เคหะสิ่งทอ โดยใช้เทคนิคการพัฒนาผ้าทอมือจากเส้นใยธรรมชาติ พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ชุดผ้าบุโซฟา โคมไฟ ผ้าปูโต๊ะรับแขกของชุดโซฟา ผ้ารองแก้ว

2.2 กลุ่มทอผ้ากระแสสินธุ์ พัฒนาผ้าทอมือหางกระรอก โดยใช้เส้นด้ายยืนเป็นฝ้าย เส้นด้ายพุ่งเป็นไหมควบ 2 สี เพื่อทำลายหางกระรอก (Color Effects) ทำให้ได้ผ้าหางกระรอกที่มีความมันวาว น้ำหนักเบา เมื่อนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าจะมีความสวยงาม และมีความพริ้วไหวทิ้งตัว สวมใส่สบาย เมื่อเปรียบเทียบกับผ้าฝ้าย 100 % รวมทั้งมีราคาไม่แพงอีกด้วย

3.กิจกรรมการพัฒนาองค์ความรู้ เทคนิคกระบวนการทำผ้าบาติก ด้วยวัสดุ และเทคโนโลยีตกแต่งสำเร็จ เพื่อทำเสื้อผ้าบาติกชุดมุสลิมด้วยการออกแบบลวดลายผ้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ผสมผสานการใช้คอลเลคชั่น Spring / Summer 2015 และแรงบันดาลใจจากว่าวควาย ว่าวควายภาษามลายู เรียกว่า “วากูบา” เป็นว่าวพื้นเมืองและเป็นสัญลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรมของสตูล และลายดอกประจำยามที่ตกแต่งในตัวว่าว มาออกแบบลวดลายผ้า

เทคนิคการพิมพ์ผ้าบาติกด้วยบล็อกไม้ เน้นการทำบาติกบนวัสดุใหม่ ประเภทผ้าใยสังเคราะห์หลายชนิด โดยมีลักษณะรูปแบบของความทันสมัย กระฉับกระเฉง แต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนหวาน

กิจกรรมที่ 3 ถ่ายทอดองค์ความรู้มาตรฐานผลิตภัณฑ์

สร้างความตระหนักด้านคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์สิ่งทอให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ บุคลากรภาครัฐ ภาคการศึกษา และหัวหน้ากลุ่มชุมชน โดยดำเนินกิจกรรมผ่านกระบวนการอบรมผู้ถ่ายทอด (Train the trainer) และฝึกอบรมผู้ประกอบการสิ่งทอในพื้นที่ให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์สิ่งทอภายในประเทศและประเทศคู่ค้า ยกระดับผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายมุสลิมให้สอดคล้องตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์สิ่งทอเครื่องนุ่งห่มทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า โดยเฉพาะเรื่องของการสร้างแบบที่ได้มาตรฐานนำไปสู่การตัดเย็บที่มีสัดส่วน (Size) เหมาะสมกับผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สถาบันฯ จะเร่งพัฒนาและสร้างองค์ความรู้ในปีหน้า

กิจกรรมที่ 4 การจัดทำฐานข้อมูลและติดตามประเมินผล 5 จังหวัดชายแดนใต้

ในมิติโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญ ข้อมูลด้านการตลาด และผลกระทบ ความสำคัญของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ต่อการสร้างงาน สร้างรายได้ และคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ เพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องมีฐานข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งทอ ของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการศึกษา พัฒนาต่อยอดการดำเนินธุรกิจ ต่อไปในอนาคต

โดยภายหลังจากการติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการพบว่า กลุ่มผู้ประกอบการเกิดความสามัคคี มีความเข้มแข็งของคนในชุมชนและองค์กร เนื่องจากสมาชิกกลุ่มได้เข้ารับการฝึกอบรมเสริมสร้างความรู้ด้านต่างๆ สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีรูปแบบหลากหลาย มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด และมีความพยายามใช้ผลผลิตที่มีอยู่ในท้องถิ่นในการผลิต นอกจากนั้นยังเกิดการถ่ายทอดความรู้ระหว่างกัน เกิดการเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลให้เกิดการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของคนในท้องถิ่น โดยใน 2 ปีที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมโครงการเห็นว่าสามารถเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนถึงร้อยละ 45 เป็นอาชีพเสริมให้แม่บ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 15 - 20 ต่อเดือน และสร้างอาชีพหลักที่เป็นรายได้ประจำเดือนละ 2,000 - 10,000 บาท ความพยายามและมุ่งมั่นดังกล่าวของโครงการน่าจะมีส่วนช่วยลดปัญหาความไม่สงบในระยะยาวได้

อย่างไรก็ตามสำหรับการดำเนินโครงการ พัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในปี 2558 เตรียมเปิดรับผู้ประกอบการ 5 จังหวัดชายแดนใต้เข้าร่วมโครงการ พร้อมตั้งเป้าหมายสร้าง ความร่วมมือและนำสิ่งทอเชื่อมโยงคุณค่าในท้องถิ่นสู่คุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมที่ดี รวมทั้งเตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับการเปิดประตูสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 นี้อย่างเป็นทางการ

โดยข้อมูลโครงการทั้งหมดสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ โทร. 0 2713 5492 – 9 ต่อ 224 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.muslim-thti.org , www.thaitextile.org/muslim

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version