ล่าสุด นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็ค กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายแบรนด์ “แม็ค พิงค์” เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างและมียอดขายเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ และดึงความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายให้เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าง่ายขึ้น รวมถึงกระตุ้นให้เกิดความถี่ในการมาซื้อสินค้า สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจไทยที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับขณะนี้กำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นเป็นเวลาแห่งการช้อปปิ้งคึกคักส่งท้ายปี คิดเป็นอัตราเติบโตสูงถึง 260% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปัจจุบันไลฟ์สไตล์การแต่งกายของคนไทยมีความเป็นแฟชั่นมากขึ้น อีกทั้งกลุ่มเป้าหมายไม่ได้อยู่แค่เมืองหลวงอีกต่อไป ทำให้การแข่งขันธุรกิจแบรนด์แฟชั่นใหม่ๆ ในรูปแบบ “ฟาสต์แฟชั่น” มีช่องว่างในการเติบโตทางการตลาดสูง เมื่อมีการขยายตัวไปยังกลุ่มคนต่างจังหวัดมากขึ้น ดังนั้น คาดว่าภายในปีหน้าจะมีการขยายจุดจำหน่ายสินค้า “แม็ค พิงค์” เพิ่มอีก 5 จุด จากปัจจุบันมีแล้ว 16 จุด เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกค้า ทำให้สามารถเข้าถึงสินค้าได้มากยิ่งขึ้น
ด้าน นางสาวแสงแข หาญวนิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็ค กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า หลังจากวางจำหน่ายสินค้าทั้งสองคอลเลคชั่นได้เพียง 1 เดือนพบว่า มีกระแสตอบรับจากลูกค้าดีมากส่งผลให้ขณะนี้มียอดขายดีเกินความคาดหมาย เชื่อว่าเป็นผลมาจากการสร้างสรรค์รูปแบบและลวดลายตอกย้ำคาแรกเตอร์แต่ละคอลเลคชั่นได้อย่างชัดเจน อีกทั้งการออกแบบสีเข้ากับซีซั่นนี้ ทำให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างลงตัว โดย “คอลเลคชั่น “FALL 2014” นี้ แม็ค พิ้งค์ เปิดตัวสินค้า 2 คอลเลคชั่น คือ “INTO THE WILD” ชูจุดเด่นเป็นชุดเดรสและชุดจั้มสูทที่มีลายเดียวกันทั้งท่อนบนและท่อนล่าง เน้นรูปแบบลายกระรอกและมีเงาเป็นสีต่างๆ ทับซ้อนกัน สีสันสดใสเหมาะกับความสดใสของกลุ่มลูกค้า ขณะที่ “คอลเลคชั่น NATURAL TOXIN” เน้นรูปแบบลายพรานหรือลายชุดทหาร ที่มีสีสันหยอดลงบนลายแตกต่างโดยสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับลายพรานหรือลายทหารที่เห็นตาม แบรนด์อื่นๆทั่วไป รวมทั้งเน้นความเก๋ ความเท่ห์ผสมกับความหวานเล็กน้อยและ กราฟฟิคลายดอกกุหลาบอาบยาพิษ
“คอลเลคชั่นทุกคอลเลคชั่นของแม็คพิ้งค์ เราดูที่ความต้องการของลูกค้าเป็นหลักว่า เสื้อผ้าแบบไหนที่กลุ่มลูกค้าต้องการหรือกำลังได้รับความนิยม บวกกับคาแรคเตอร์ของแบรนด์ที่เน้นความสนุก หวานซ่อนเปรี้ยว มีดีเทล และ สวมใส่ง่าย ดังนั้น ทุกคอลเลคชั่นมีดีไซน์เนอร์จะรังสรรค์ความคิด และวิเคราะห์เทรนด์จากแบรนด์ระดับสากล และเทรนด์รูปแบบเสื้อผ้า ที่เป็นที่นิยมในตลาดแฟชั่นประเทศไทย เพื่อให้เหมาะกับผู้หญิงไทยที่ชอบแฟชั่นทุกคน เรามองว่าแม็ค กรุ๊ป มีจุดแข็งแตกต่างจากแบรนด์ต่างๆ ที่มีอยู่ในท้องตลาด ทั้งในเรื่องคุณภาพและการผลิต อีกทั้งพบว่าคนที่ซื้อสินค้าในฟาสต์แฟชั่นแบรนด์อินเตอร์ส่วนใหญ่เป็นคนเมืองแต่คนต่างจังหวัดยังไม่รู้จักแบรนด์เหล่านั้น ขณะที่แบรนด์ “แม็ค กรุ๊ป” เป็นที่รู้จักของคนไทยทั่วประเทศ จึงทำให้บริษัทฯ สามารถเข้าถึงกลุ่มคนเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น ” นางสาวแสงแข กล่าว