นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจประกันวินาศภัยยังคงมีโอกาสเติบโตได้อีกอย่างต่อเนื่อง จากการที่ประเทศไทยมีสัดส่วนเบี้ยประกันวินาศภัยต่อจีดีพี (GDP) ที่ 1.7 % ขณะที่อัตราเฉลี่ยการทำประกันวินาศภัยรวมทั่วโลกจะมีสัดส่วนที่ 2.81% ดังนั้นธุรกิจประกันวินาศภัยของไทยยังคงมีโอกาสทางธุรกิจอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจและแนวโน้มของโลก ทั้งนี้ มูลค่าธุรกิจประกันวินาศภัยของประเทศไทยในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา มีการขยายตัวเฉลี่ย 5-10% ขณะที่ตลาดประกันวินาศภัยผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ เติบโตเฉลี่ยปีละ 20% สะท้อนการที่ผู้บริโภคมีความตระหนักในเรื่องการวางแผนเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภัยต่าง ๆ มากขึ้น
ธนาคารกสิกรไทย จึงได้ร่วมมือกับบมจ. เมืองไทยประกันภัย ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยผ่านสาขาของธนาคารกว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองแนวโน้มความต้องการในตลาดประกันวินาศภัยที่กำลังขยายตัว โดยเมืองไทยประกันภัยจะร่วมออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการด้านประกันวินาศภัยอย่างครบวงจร สำหรับ K-Bancassurance ประกันวินาศภัยกสิกรไทย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบแพ็คเกจประกันวินาศภัยที่มีความหลากหลายและจับต้องได้ง่าย ภายใต้แนวคิด 3 ประการ คือ ซื้อง่าย เข้าใจง่าย (Easy and Simple) เบี้ยประกันไม่แพง (Affordable) และความคุ้มครองเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า (Matching with all Customer Segment Needs)
สำหรับในช่วงแรก K-Bancassurance ประกันวินาศภัยกสิกรไทย จะให้ความสำคัญกับตลาดประภันวินาศภัยสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล เนื่องจากมีฐานผู้ใช้รถยนต์ทั่วประเทศจำนวนกว่า 12.9 ล้านคัน มีมูลค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ในตลาดรวมกว่า 59,274 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 58% มูลค่าเบี้ยประกันในธุรกิจประกันวินาศภัยทั้งหมด โดยขณะนี้มีแพ็คเกจประกันวินาศภัยสำหรับรถยนต์ 4 แพ็คเกจ จุดเด่น คือ ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 (Car Protect 1) ที่ไม่ต้องตรวจสภาพรถยนต์ก่อนรับประกัน และนับเป็นเจ้าแรกในตลาดที่มอบเงินชดเชยให้ระหว่างนำรถเข้าซ่อม 5,000 บาทต่อครั้ง สูงสุด 3 ครั้งต่อปี พร้อมบริการช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้โครงการเมืองไทยยิ้มได้...เมื่อรถเสีย เบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 13,400 บาท และยังมีประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 (Car Protect 3) ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3+ (Car Protect 3+) และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พรบ.) ครบถ้วนตามผลิตภัณฑ์ในตลาด ให้ผู้ใช้รถสามารถเลือกได้ตามความต้องการ ลูกค้าสนใจสามารถติดต่อสมัครแพ็คเกจประกันวินาศภัยกสิกรไทยได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ
นอกเหนือจากประภัยรถยนต์แล้ว K-Bancassurance ประกันวินาศภัยกสิกรไทย จะมีการนำเสนอแพ็คเกจประกันวินาศภัยอื่น ๆ อาทิ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้สูงอายุ ประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้บริหาร ประกันภัยวัยซน ประกันภัยเดินทางระหว่างประเทศ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย และประกันภัยโรคมะเร็ง และในอนาคตจะมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เข้าสู่ตลาดเพิ่มเติม เพื่อครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าในการวางแผนป้องกันความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ในชีวิต
นายปกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ธนาคารกสิกรไทยมีสาขาที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้มีความใกล้ชิดกับลูกค้า ช่วยอำนวยความสะดวกในการให้บริการและคำปรึกษาแก่ลูกค้าได้ดีกว่า ปัจจุบัน ธนาคารฯ มีเบี้ยรับประกันภัยรวมประมาณ 1,000 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายสิ้นปี 2557 จะมีเบี้ยรับประกันภัยที่ 2,000 ล้านบาท และจากความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับเมืองไทยประกันภัยในการพัฒนาบริการที่หลากหลายสำหรับลูกค้าบุคคลและกลุ่มลูกค้าธุรกิจจะช่วยให้ธนาคารกสิกรไทยก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจ แบงก์แอสชัวรันส์ประกันวินาศภัย ภายใน 3 ปี หรือมีเบี้ยประกันวินาศภัยประมาณ 5,000 ล้านบาท เหมือนกับที่ธนาคาร ฯ สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ประกันชีวิตมาแล้ว
นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เมืองไทยประกันภัยจะร่วมกับธนาคารกสิกรไทยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเครือข่ายบริการหลังการขาย จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของเมืองไทยประกันภัยในด้านช่องทางการขาย เพิ่มโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของเมืองไทยประกันภัยให้แก่ฐานลูกค้าบุคคลของธนาคารกสิกรไทย ที่มีจำนวนประมาณ 12 ล้านคน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ ที่มีแนวโน้มการขยายตัวของตลาดที่โดดเด่น โดยปัจจุบันเมืองไทยประกันภัยมีเบี้ยรับประกันภัยรถยนต์มูลค่ารวมกว่า 2,861 ล้านบาท คิดเป็น 4.12% ของมูลค่าเบี้ยประกันภัยรับรวม 7 เดือน ด้วยฐานลูกค้าประกันภัยรถยนต์ทั่วประเทศกว่า 300,000 กรมธรรม์ สะท้อนความต้องการในตลาดนี้ ก่อนจะต่อยอดไปสู่การนำเสนอประกันภัยประเภทอื่น ๆ ผ่านสาขาของธนาคารกสิกรไทยในอนาคต
ทั้งนี้ เมืองไทยประกันภัยดำเนินธุรกิจโดยมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ รวมทั้งการผสานความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อต่อยอดการให้บริการ โดยบริษัทมีผลิตภัณฑ์ประกันภัยครอบคลุมทุกมิติความเสี่ยง ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ ประกันอัคคีภัยและทรัพย์สิน และประกันภัยสำหรับภาคธุรกิจ ซึ่งในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้เมืองไทยประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 5,685 ล้านบาท