ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท “บ. น้ำตาลขอนแก่น” ที่ระดับ “A/Stable”

พุธ ๑๗ กันยายน ๒๐๑๔ ๑๗:๓๔
ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาทของ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน)ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงประสบการณ์ที่ยาวนานในฐานะที่บริษัทเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ของประเทศไทย ตลอดจนการขยายกิจการไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจน้ำตาล ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตดังกล่าวยังคำนึงถึงความเสี่ยงจากสถานการณ์ราคาน้ำตาลที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงความเสี่ยงทั้งในด้านกฎระเบียบและการดำเนินธุรกิจอ้อยและน้ำตาลในประเทศลาวและกัมพูชา ตลอดจนความผันผวนของปริมาณผลผลิตอ้อยด้วย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่ากลุ่มน้ำตาลขอนแก่นจะยังคงดำรงสถานะการเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ของไทยเอาไว้ได้ โดยระบบแบ่งปันผลประโยชน์ในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล ตลอดจนการเติบโตของธุรกิจเอทานอล และรายได้ที่คงที่จากธุรกิจไฟฟ้าจะช่วยรองรับการดำเนินงานในช่วงวงจรขาลงของธุรกิจน้ำตาลได้

บริษัทน้ำตาลขอนแก่นเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ในประเทศไทยซึ่งก่อตั้งในปี 2488 โดยตระกูลชินธรรมมิตร์และคณะ ณ เดือนเมษายน 2557 ตระกูลชินธรรมมิตร์ถือหุ้นในบริษัทในสัดส่วนรวม 70.0% ของหุ้นทั้งหมด บริษัทเป็นเจ้าของและบริหารโรงงานน้ำตาล 5 แห่งในประเทศไทยโดยมีกำลังการหีบอ้อยรวม เท่ากับ 103,666 ตันอ้อยต่อวัน ในช่วงปีการผลิต 2556/2557 ทั้งนี้ กลุ่มน้ำตาลขอนแก่นสามารถหีบอ้อยได้ 8.5 ล้านตันอ้อยในปีการผลิต 2556/2557 และผลิตน้ำตาลได้ 906,122 ตัน ซึ่งจัดเป็นกลุ่มผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 4 ของประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 8.0% ในปีการผลิต 2556/2557 รองจากกลุ่มมิตรผลซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาด 20.3% กลุ่มไทยรุ่งเรือง 15.5% และกลุ่มไทยเอกลักษณ์ 9.3%

ตั้งแต่ปี 2549 บริษัทได้ขยายการลงทุนไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจน้ำตาลเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากอ้อย ได้แก่ ธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าและเอทานอล ในช่วงปี 2556 จนถึงช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 รายได้จากธุรกิจพลังงาน (ไฟฟ้าและเอทานอล) คิดเป็นสัดส่วน 22% ของรายได้รวม

นอกเหนือจากธุรกิจน้ำตาลในประเทศไทยแล้ว กลุ่มน้ำตาลขอนแก่นยังดำเนินธุรกิจน้ำตาลในประเทศลาวและกัมพูชาด้วย โดยโรงงานน้ำตาลในประเทศดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในปีการผลิต 2553 หลังจากที่บริษัทประสบกับปัญหาผลผลิตอ้อยต่อไร่ตกต่ำจากโรคระบาดในอ้อยเป็นระยะเวลาหลายปี ในช่วงปีการผลิต 2556/2557 ผลผลิตอ้อยในประเทศลาวและกัมพูชาเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 2.9 ตันอ้อยต่อไร่ในปีการผลิต 2555/2556 มาอยู่ที่ 7.9 ตันอ้อยต่อไร่ อย่างไร

ก็ตาม ราคาส่งออกน้ำตาลทรายดิบไปยังกลุ่มประเทศยุโรปลดลง 35% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 เนื่องจากปัญหาผลผลิตล้นตลาดในกลุ่มประเทศยุโรป ทำให้ผลประกอบการของบริษัทในประเทศลาวและกัมพูชายังคงขาดทุนที่ 97 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทมีรายได้รวมลดลง 20% จากช่วงเดียวกันของปี 2556 อยู่ที่ระดับ 12,200 ล้านบาท การลดลงของรายได้รวม มีสาเหตุหลักมาจากปริมาณขายน้ำตาลลดลง 23% เหลือ 460,000 ตันในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 เนื่องจากลูกค้าชะลอการส่งมอบน้ำตาลออกไปช่วงปลายปี 2557 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขายของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 24.1% จาก 14.7% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ลดลงจากผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมในการปลูกอ้อย รวมถึงการที่บริษัทไม่มีปัญหาเรื่องเครื่องจักรในช่วงการผลิต อัตรากำไรของบริษัทที่ดียังมาจากอัตรากำไรของกลุ่มเอทานอลและพลังงานที่สูงด้วย การที่บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น ส่งผลทำให้กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้นได้ แม้ว่ารายได้รวมของบริษัทจะลดลง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 EBITDA ของบริษัทเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 3,158 ล้านบาท จาก 2,998 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจที่ 5.11 เท่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557

อัตราการก่อหนี้ของบริษัทอยู่ในระดับสูง เนื่องจากเป็นผลของฤดูกาล โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ที่ระดับ 64.15% ณ กรกฎาคม 2557 อัตราการก่อหนี้ของบริษัทคาดว่าจะลดลงตอนสิ้นปี 2557 เมื่อมีการส่งมอบน้ำตาล ในช่วงปีการเงิน 2557-2559 บริษัทวางงบลงทุนในโครงการต่าง ๆ รวมจำนวน 2,000-3,000 ล้านบาทต่อปี ในกรณีที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) เพื่อย้ายโรงงานน้ำตาลที่จังหวัดชลบุรีไปยังจังหวัดสระแก้ว เมื่อพิจารณาจากประมาณการ EBITDA ของบริษัทที่ประมาณ 4,000 ล้านบาทต่อปี คาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะต่ำกว่าระดับ 60% ได้ในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีข้างหน้า แม้ว่าอุตสาหกรรมน้ำตาลจะเผชิญภาวะตกต่ำตามวัฏจักร

คาดว่าราคาน้ำตาลจะยังคงอ่อนแอในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำตาลคงเหลือจำนวนมากทั่วโลก The United States Department of Agriculture หรือ USDA ได้คาดการณ์ว่าในฤดูการผลิตปี 2556/2557 จะยังคงมีอุปทานน้ำตาลส่วนเกินทั่วโลก ซึ่งเป็นปีที่ 4 ที่ติดต่อกันที่เกิดภาวะน้ำตาลเกินดุล โดย USDA คาดว่าจะเกินดุลจำนวน 1.5 ล้านตัน สำหรับในฤดูการผลิต 2557/2558 USDA คาดการณ์ว่าทั่วโลกจะผลิตน้ำตาลใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าที่ 175.6 ล้านตัน โดยคาดว่าผลผลิตน้ำตาลที่ลดลงในประเทศบราซิล จีน ปากีสถาน และไทย จะสุทธิกับปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นในประเทศอินเดีย กลุ่มประเทศในสหราชอาณาจักรโซเวียตเดิม และกลุ่มประเทศประชาคมยุโรป ขณะที่ความต้องการบริโภคน้ำตาลคาดว่าจะเติบโตจากประเทศจีนและอินเดีย หากเป็นไปตามนี้จะทำให้ปี 2557/2558 เป็นปีแรกในรอบ 5 ปีที่เกิดภาวะน้ำตาลขาดดุล โดย USDA คาดว่าน้ำตาลจะขาดดุลจำนวน 1.1 ล้านตันในปี 2557/2558 อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำตาลคงเหลือที่มีอยู่จำนวน 45.5 ล้านตันตามประมาณการของ USDA จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำตาลในอนาคตอันใกล้นี้

บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) (KSL)

อันดับเครดิตองค์กร: A

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

KSL14DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A

KSL15DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A

KSL174A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A

KSL198A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A

หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2562 A

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๕๙ บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) จัดงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ครั้งที่ 53
๑๑:๒๗ TSE ติดปีก! เตรียมรับทรัพย์ขายหุ้นบ.ร่วมค้า TSR 60% มูลค่า 1.79 พันลบ. ผถห.ไฟเขียวเพิ่มทุนขาย PP 211.77
๑๑:๓๒ สงกรานต์นี้ ร่วมฉลองไปกับ One Bangkok, One Lagoon Splashing Songkran Rhythms ที่สุดของความสนุก สดชื่น
๑๑:๓๕ Xbox เตรียมจัดงาน Xbox Games Showcase พร้อมเผยอัปเดตล่าสุดจาก The Outer Worlds 2
๑๑:๐๐ '137 ดีกรี(R)' เอาใจคนรักสุขภาพเปิดตัว นมอัลมอนด์โปรตีนสูง 11 กรัม พร้อมดึง 'ชมพู่ อารยา' เป็นพรีเซนเตอร์ปีที่สอง
๑๐:๑๕ ผถห.TFG อนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.225 บ./หุ้น รับทรัพย์ 24 เม.ย.นี้ ปักธงรายได้ปี 68 เติบโต 10-15%
๑๐:๕๙ รพ.จุฬาฯ ปลื้ม ยอดใช้งานแอป CheckPD ทะลุ 50% ชูวาระวันพาร์กินสันโลก ย้ำให้ผู้คนตระหนักรู้จักโรคพาร์กินสัน
๑๐:๐๗ ภูเขาฟ่านจิ้งซาน: สวรรค์บนยอดเขาที่นักเดินทางห้ามพลาด
๑๐:๐๐ เสริมเกราะป้องกันภัยในครอบครัว มูลนิธิศุภนิมิตฯ เปิดพื้นที่กระชับสัมพันธ์พ่อแม่-ลูก ผ่านหลักสูตรครอบครัวสุขสันต์
๑๐:๔๗ จุดเปลี่ยนนโยบายภาษีสหรัฐฯ: ภาษีทรัมป์ เขย่าโลก จับทิศทางการค้าและการปรับตัวของคริปโตในไทย