“ตี๋ แม็ทชิ่ง” หรือ ตี๋-สมชาย ชีวสุทธานนท์ กลับมารุกตลาดผู้ผลิตสื่อและผลิตรายการครบวงจร (Content Provider) สำหรับสื่อทุกแขนง ทั้ง Above-the-line Below-the-line และสื่อออนไลน์ในนามบบริษัท บริษัท ตี๋ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ประกาศวิสัยทัศน์รุกตลาดในกลุ่มประเทศ AEC หลังจากศึกษาตลาดจากข้อมูลเชิงลึกอย่างละเอียดตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ได้เล็งเห็นศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมสื่อทุกประเภท โดยเฉพาะสื่อทางด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ล่าสุดได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับพันธมิตร บริษัท ชเวตันลวิน มีเดีย จำกัด (Shwe Than Lwin Media) หรือสถานีโทรทัศน์ สกายเน็ต ทีวี (SKYNET DTH) เป็นสถานีที่มีการออกอากาศในรูปแบบทั้ง Paid-TV และ Free-to-Air ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ที่มีทั้งสองรูปแบบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเมียนมาร์ โดยทางกลุ่ม “ตี๋“ จะเน้นรับผิดชอบดูแลด้านการผลิตเป็นหลัก และมีส่วนร่วมในการดำเนินการบริหารงานด้านการตลาดแบบเต็มรูปแบบ เพื่อขยายฐานลูกค้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต
ตี๋-สมชาย ชีวสุทธานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ตี๋ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ได้เข้าไปจดทะเบียนบริษัทชื่อ ตี๋ อินเตอร์เนชั่นแนล เมียนมาร์ เพื่อดำเนินธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ เรามีทีมขาย และทีมการตลาดที่พร้อมครบ ล่าสุดได้รับเลือกให้เป็น Strategic Partners หรือหุ้นส่วนด้านการวางแผนนโยบาย การดำเนินงานและการบริการด้านการตลาดให้กับ สกายเน็ต ทีวี โดยจะรับผิดชอบเป็นผู้ผลิตและผู้ขายเวลาในแต่ละรายการที่ผลิต ส่วนทางสกายเน็ต ทีวี จะรับรายการจากเราไปถ่ายทอด ทั้งในช่อง Paid-TV และ Free-to-Air โดยแบ่งผลประโยชน์แบบ Time Sharing 70:30 คือ ตี๋ อินเตอร์เนชั่นแนล เมียนมาร์ 70% และ สกายเน็ต ทีวี 30% และในฐานะที่เป็น Strategic Partners เราได้มีการพูดคุยเสนอข้อคิดเห็นในเรื่องของสื่ออื่นๆ ที่จะเสริมศักยภาพให้ สกายเน็ต ทีวี ให้เหนือกว่าคู่แข่ง รวมถึงการเข้าไปนำเสนอรายการและแผนงานให้กับเอเจนซี่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากเมืองไทย มีทั้งแบรนด์สินค้าทั้งของไทยและอินเตอร์แบรนด์
ตี๋-สมชาย เปิดเผยอีกว่า บริษัท ตี๋ อินเตอร์เนชั่นแนล เมียนมาร์ จะเริ่มผลิตรายการผ่านทางสถานีโทรทัศน์ของทางสกายเน็ต โดยจะเริ่มผลิตรายการ 3 รายการ ได้แก่ รายการเกมส์โชว์ 2 รายการ และรายการดนตรี 1 รายการ ออกอากาศในไตรมาส 4 ปีนี้ ผ่านทางสกายเน็ต ทีวี ทางช่อง Music, Teenage และ Sport ระหว่างเวลา 19.00-23.00 น. ของทั้ง 3 ช่อง ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้ชมมากสุด โดยจะออกอากาศทาง Paid-TV ก่อน และ Re-run หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ในช่อง MNTV และ Channel 9 (Free-to-air) ในระหว่างเวลา 19.00-23.00น. ในเฟสแรกและในปี 2558 วางแผนดำเนินการผลิตรายการประเภท Sit Com, Talk Show และละครทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ทางสกายเน็ต และทางตี๋อินเตอร์จะร่วมกันจัดหาเวลาออกอากาศที่เหมาะสมกับคนดู หลังจากนั้นจะเข้าไปร่วมวางแผนการตลาดและพัฒนารูปแบบรายการทางสถานที MNTV และ Channel 9 ซึ่งเป็นช่อง Free-to-air ต่อไป
นอกจากนั้นยังได้เซ็นสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรการค้าร่วมกัน (MOU) กับ สกายเน็ต ทีวี เมื่อปลายเดือนกรกฏาคม 2557 ที่ผ่านมา แต่งตั้ง ตี๋ อินเตอร์เนชั่นแนล เมียนมาร์ ให้เป็น Authorized Partners วางแผน โฆษณาและการขายสปอตโฆษณา สำหรับ English Premier League (EPL) ให้กับช่องสกายเน็ต ทีวี และยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในการดำเนินการจัดกิจกรรม Below-the-Line หรือ On-ground activities สนับสนุน EPL ในประเทศเมียนมาร์ พร้อมได้รับสิทธิ์ผลิตรายการเสริม หรือ Extra Programs ที่จะถ่ายทอดทั้งในช่อง Paid-TV และ Free-to-Air
“ทั้ง Sponsor Package และ Extra Programs ของ English Premier League (EPL) เราได้ทำแพคเก็จและนำเสนอให้กับลูกค้าไปบ้างแล้ว ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ International Sponsors ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก พร้อมกันนี้เรายังจัดกิจกรรมเสริมทางการตลาด On-ground ร่วมกับสกายเน็ต ทีวีและสปอนเซอร์ อาทิ กิจกรรมถ่ายทอดสดกลางแจ้ง พร้อมกิจกรรมเสริมจากสปอนเซอร์ที่สนามกีฬาแห่งชาติ หรือ ลานกิจกรรมใหญ่ ในแมทช์สำคัญ ๆ เช่น ศึก Manchester Derby Man U ปะทะ Man City หรือ ศึกวันแดงเดือด North West Derby Man U. ปะทะ Liverpool และยังมีกิจกรรมเสริม นำผู้โชคดีไปร่วมชมการแข่งขันที่สนามจริงที่ประเทศอังกฤษ เชื่อว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับชาวเมียนมาร์ คาดว่าจะได้รับการตอบรับอย่างมากมาย นับได้ว่าเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกก็ว่าได้”
ตี๋-สมชาย เปิดเผยอีกว่า “ความท้าทายของการผลิตรายการให้กับผู้ชมชาวเมียนมาร์ อันดับแรกต้องทำความเข้าใจในคนเมียนมาร์ รายการที่ผลิตจะต้องสอดคล้องกับพื้นฐานความเป็นอยู่ของคนที่นั่น ดูพฤติกรรมความชอบว่าเค้าชอบอะไร ต้องการรับรู้อะไรอันดับต้นๆ เนื้อหาสาระที่จะอยู่ในรายการต้องไม่มากเกินกว่าที่คนเมียนมาร์จะรับได้ หมายความว่าไม่เร็วเกินกว่าที่คนเมียนมาร์จะตามทัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำรายการที่ล้าหลัง เพราะคนเมียนมาร์ค่อนข้างเปิดรับ และรับรู้ได้ดี ต้องศึกษาตลาดผู้บริโภคคือผู้ชมให้ดีข้อมูลต้องละเอียดและชัดเจน
เช่น พฤติกรรมของคนเมียนมาร์ค่อนข้างคล้ายคนไทยโดยเฉพาะทางด้านวัฒนธรรมที่ชอบเข้าวัดทำบุญ ไหว้พระยังคงความอนุรักษ์นิยมมากพอสมควร สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการจะทำรายการที่ประเทศเมียนมาร์คือแผนการตลาดและแผนการขายโฆษณาในรายการเพราะเป็นหัวใจหลักที่สำคัญของการทำรายการทีวี ที่ต้องเตรียมการสำหรับทางด้านทีมงานบุคลากรทางเราจะนำทีมงานหลักที่เป็นคนไทย เข้าไปดำเนินการผลิตเบื้องต้น และยังตั้งใจเข้าไปถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อพัฒนา และเพิ่มทักษะการเรียนรู้ให้กับทีมงานชาวเมียนมาร์ เพื่อผลิตบุคลาการที่มีคุณภาพด้านการผลิตสื่อแขนงต่างๆ ออกสู่ตลาดและเป็นฐานการผลิตในอนาคต”
สำหรับแนวทางดำเนินธุรกิจของ ตี๋ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ตั้งแต่ต้นปี 2557 ที่ผ่านมา ยังคงเน้นที่เน้นตลาดในประเทศเป็นหลัก และเริ่มเปิดตลาดในประเทศเมียนมาร์ โดยเริ่มจากการผลิตภาพยนตร์โฆษณา ส่วนในปี 2558 จะเห็นความเข้มข้นของการรุกตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม AEC เช่น ประเทศลาวและกัมพูชา โดยกำลังศึกษาตลาด ทั้งในด้านวัฒนธรรม สภาพสังคม กฏหมาย การเมือง เศรษฐกิจ และพฤติกรรมของคนในประเทศนั้น ๆ ซึ่งแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน มีความรู้ความเข้าใจขั้นพื้นฐานต่างกัน ทำให้บริษัทต้องกลับมาวางกลยุทธ์ และแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดนั้นๆ
“ปี 2557 เป็นปีแรกที่เราประกาศรุกตลาดต่างประเทศ เราจะนำจุดแข็งของ ตี๋ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ในด้านการกำหนดกลยุทธ์ให้ธุรกิจการผลิตงานโปรดักชั่นแบบครบวงจร สำหรับสื่อทุกรูปแบบ ทั้ง Above-the-line, Below-the-line และสื่อออนไลน์ เราต้องการเป็น One stop service ให้กับลูกค้าหรือที่เรียกว่า Through-the-line Services อะไรก็ตามที่เป็น Contents เกี่ยวกับ ตา ดู และ หู ฟัง ตี๋ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ พร้อมให้บริการ”
จากประสบการณ์ที่สั่งสมมากกว่า 20 ปี วันนี้ “ตี๋ แม็ทชิ่ง” หรือ ตี๋-สมชาย ชีวสุทธานนท์ พร้อมแล้ว!! ที่จะกลับมาสร้างปรากฏการณ์ให้อุตสาหรรมผลิตงานโฆษณา และประชาสัมพันธ์อีกครั้ง โดยเฉพาะจุดขายด้านการ จัดกิจกรรมการตลาด (Event Marketing) ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างยิ่ง เน้นการนำเสนองานให้สอดคล้องกับความต้องการลูกค้า เพื่อส่งเสริมการขายและมีกิจกรรมร่วมกับลูกค้า รวมถึงดูแลภาพลักษณ์ของแบรนด์ผ่านสื่อทุกแขนง โดยปีที่ผ่านมาได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบงานระดับประเทศ อาทิ งานจุดพลุเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่หัวหิน และงาน Thai Life Presents International Firework Festival ที่พัทยา เป็นต้น