อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) โดยสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (สขร.) ได้ขอความร่วมมือให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ส่งหน่วยงานในสังกัดเข้าร่วมโครงการพัฒนาหน่วยงานต้นแบบในการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสาร ของราชการให้เป็นหน่วยงานต้นแบบในส่วนกลางระดับกระทรวง (หนึ่งกระทรวง หนึ่งหน่วยงานต้นแบบ) และในส่วนภูมิภาคระดับจังหวัด (หนึ่งจังหวัด หนึ่งหน่วยงานต้นแบบ) เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ซึ่งผลการตรวจประเมินเพื่อให้คะแนนหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ ปรากฏว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และองค์การสวนพฤกษศาสตร์ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหน่วยงานต้นแบบในการจัดตั้ง ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการประจำกระทรวง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 และเข้าร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือ (MOU) กับ สปน.
สำหรับขอบเขตการดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ดังกล่าว สปน. จะให้การสนับสนุนคู่มือเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ เกี่ยวกับพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 อย่างต่อเนื่อง โดย สขร. จะเป็นที่ปรึกษาให้กับหน่วยงานต้นแบบ นอกจากนี้จะมีการออกตรวจและติดตามเพื่อประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานต้นแบบอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง เพื่อสรุปผลการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) นำเสนอต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ส่วนกรมทรัพยากรน้ำบาดาลที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหน่วยงานต้นแบบจะดำเนินการพัฒนาศูนย์ข้อมูลข่าวสารให้เป็นสถานที่ศึกษาดูงาน และเป็นที่ปรึกษาให้กับหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นๆ พร้อมกำหนดมาตรการสร้างแรงจูงใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบศูนย์ข้อมูลข่าวสาร เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการดำเนินงาน โดยบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) นี้ จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558-2560)
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวต่อไปว่า เจตนารมณ์แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 นั้น ต้องการเน้นถึงสิทธิที่ประชาชนจะสามารถรับรู้และเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครอง ของรัฐ ภายใต้หลักการของกฎหมายที่ว่า ‘เปิดเผยเป็นหลัก ปกปิดเป็นข้อยกเว้น’ เนื่องจากการเปิดโอกาส ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองของรัฐ จะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการเรียนรู้ ตลอดจน การมีส่วนร่วมของประชาชนในกิจการของรัฐและส่วนรวม ช่วยเปลี่ยนแปลงทัศนคติหรือค่านิยมในการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้มุ่งสู่ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความโปร่งใส และที่สำคัญจะช่วยให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม ในการพิทักษ์สิทธิของตนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลด้านความโปร่งใสในภาพรวมต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับบริการข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับภารกิจของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ชั้น 1 อาคาร 1 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 2299 3900 และ www.dgr.go.th