มร.เดวิด กราเซีย ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ วีโก โมบาย ประเทศฝรั่งเศส กล่าวถึงความสำเร็จของ “Wiko” (วีโก) ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 2 ปี ในการก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ยอดฮิตอันดับ 2 ของประเทศ และกลายเป็นโกลบอลแบรนด์ (Global Brand) ที่สามารถขยายตลาดครอบคลุมกว่า 10 ประเทศโดยเฉพาะในทวีปยุโรป ซึ่งความสำเร็จและการเติบโตอย่างรวดเร็วนี้เกิดขึ้นจาก 2 ปัจจัยคือ นวัตกรรมการพัฒนาสินค้าให้มีประสิทธิภาพด้านฟังก์ชั่นที่เหมาะกับการใช้งานจริง และด้านรูปลักษณ์ที่มีดีไซน์สวยงาม มีความเป็นแฟชั่น ทันสมัย และอีกปัจจัยหนึ่งคือกลยุทธ์การขายที่แตกต่างด้วยการขายแบบเครื่องเปล่า ไม่มีแพคเกจค่าโทรพ่วง ตลอดจนการใส่ใจในการบริการหลังการขายเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน ทั้งหมดนี้ทำให้วีโกเป็นทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้สมาร์ทโฟนและสามารถเลือกใช้ชีวิตได้ในแบบที่ต้องการ
จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ มีเป้าหมายในการขยายตลาดไปยังประเทศเป้าหมายใหม่ในอีกหลายทวีปทั่วโลก และสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นหลังจากการเปิดตัวในเวียดนามแล้ว ประเทศไทยจึงเป็นประเทศถัดมา เนื่องจากพบว่าตลาดสมาร์ทโฟนของไทยนั้นเป็นตลาดที่มีโอกาสและศักยภาพในการเติบโตสูง ประกอบกับการได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไอทีและคอมพิวเตอร์ ทั้งยังมีบริษัทจัดจำหน่ายในเครือที่สามารถกระจายสินค้าได้ทั่วประเทศ จึงเชื่อมั่นว่าศักยภาพและความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 บริษัทจะเสริมความแข็งแกร่งซึ่งกันและกัน และทำให้สมาร์ทโฟนวีโกในเมืองไทยประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับที่ฝรั่งเศสและอีกหลายประเทศทั่วโลก
นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไอทีและคอมพิวเตอร์ในประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือในการนำวีโกสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยครั้งนี้ นับว่าถูกจังหวะและช่วงเวลา โดยปัจจุบันนี้พบว่าสัดส่วนของการใช้สมาร์ทโฟนในประเทศไทยอยู่ที่ 60% และฟีเจอร์โฟน 40% ขณะที่หากแบ่งตามระบบปฏิบัติการจะพบว่าระบบปฏิบัติการณ์แอนดรอยด์มีสัดส่วน 65% ไอโอเอส 25% และวินโดวส์ 10% ขณะเดียวกันผลสำรวจของบริษัทวิจัยตลาด จีเอฟเค ได้คาดการณ์ว่าในปีนี้ ตลาดรวมสมาร์ทโฟนจะมีประมาณ 12 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 20% และคาดว่าแนวโน้มตลาดจะเติบโตต่อเนื่อง
“จากข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ให้เห็นถึงช่องว่างของตลาดที่น่าสนใจ และยังสามารถแข่งขันได้ ทุกวันนี้สมาร์ทโฟน กลายเป็นเครื่องมือสื่อสารที่มีบทบาทมากในชีวิตประจำวัน เพราะด้วยคุณสมบัติที่เป็นมากกว่าโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นด้านการอัพเดตข่าวสารข้อมูล การทำธุรกรรมทางการเงิน การใช้บริการชำระเงินค่าสาธารณูปโภค การเชื่อมต่อเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อติดต่อกับเพื่อนฝูง หรือเพื่อตอบสนองความบันเทิงต่างๆ สมาร์ทโฟนวีโกสามารถตอบโจทย์การใช้งานเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน
ครอบคลุมทุกความต้องการการใช้งานพื้นฐาน เมื่อผนวกกับการมีบริษัทในเครืออย่าง บริษัท คูล ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีความเข้มแข็งด้านช่องทางการจัดจำหน่าย จึงมั่นใจว่าจะสร้างการยอมรับจากผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี”
นายจิรวัฒน์ ศรีธระชิยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีโก โมบาย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายของสมาร์ทโฟนวีโก คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์เป็นของตัวเองหรือกลุ่มที่เลือกจะใช้ชีวิตโดยไม่ตามแบบใคร ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพครบครัน สามารถรองรับความต้องการใช้งานจริงได้ทุกด้าน ในราคาสมเหตุสมผล วีโก จึงเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ และด้วยคุณภาพของสินค้าที่เป็นมาตรฐานเดียวกับประเทศฝรั่งเศส ยุโรป และในหลายประเทศทั่วโลก จึงทำให้วีโกเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค
“การเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยนี้ บริษัทฯ ได้แนะนำพร้อมกัน 7 รุ่นในราคาตั้งแต่ 2,490-7,990 บาท ประกอบด้วย 2 รุ่นเด่นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีโดยเฉพาะ ได้แก่ รุ่น HIGNWAY SIGNS เป็นสมาร์ทโฟนที่ผสมผสานประสิทธิภาพและดีไซน์ทันสมัยไว้ในหนึ่งเดียว มาพร้อมหน่วยประมวลผล 1.4GHz OCTA Core ที่ทำงานพร้อมกันถึง 8 Core ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว และรุ่น WAX4G ซึ่งถือเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกของโลกที่ใช้หน่วยประมวลผล NVIDIA Tegra 4i ขุมพลังทางด้านกราฟิกและการแสดงผลที่เหนือชั้นกว่าโดยเฉพาะการเล่นเกมจาก TegraZone ทั้งยังรองรับเทคโนโลยี 4G LTE ด้วย, รุ่น RAINBOW, รุ่น BLOOM และรุ่น SLIDE เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค และชมความบันเทิงผ่านโลกออนไลน์ ขณะที่ รุ่น SUNSET และ รุ่น LENNY สำหรับผู้ที่เริ่มใช้สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องแรก โดยเปลี่ยนจากการใช้ฟีเจอร์โฟน ซึ่งมีฟังก์ชั่นพื้นฐานของสมาร์โฟนที่ครบทุกด้าน” นายจิรวัฒน์ กล่าว
สำหรับการทำตลาดเพื่อผลักดันให้แบรนด์ วีโก เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคนั้น บริษัทฯ จะใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาท ในการสื่อสารเพื่อให้ครอบคลุมทุกด้านแบบ 360 องศา ทั้งการสื่อสารผ่าน Above the Line ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อกลางแจ้ง และ Below the Line การจัดกิจกรรมโรดโชว์ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด การใช้สื่อออนไลน์เป็นช่องทางหลักช่องทางหนึ่งของการสื่อสารกับผู้บริโภค ตลอดจนรวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับตัวแทนจำหน่ายและร้านค้าโทรศัพท์มือถือชั้นนำต่างๆ อีก เพื่อให้ผู้บริโภคได้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับสมาร์ทโฟนวีโกด้วยกัน
ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายนั้นจะเน้นขายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่มีครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 4,000 ราย ควบคู่ไปกับการวางจำหน่ายในร้านขายโทรศัพท์มือถือชั้นนำ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ เจมาร์ท, ทีจี โฟน, แมงโก้ โมบาย ฯลฯ รวมถึงการขายผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย พร้อมกันนี้ยังมีศูนย์บริการหลังการขายจำนวน 8 แห่ง ครอบคลุมใน 7 จังหวัดทั่วประเทศ และมีแผนจะขยายศูนย์บริการเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยศูนย์บริการนี้จะเป็นการให้บริการหลังการขายที่ครบวงจร อาทิ การตรวจเช็คระยะเวลาในการรับประกันสินค้า จำหน่ายอะไหล่แท้ และบริการซ่อม-รับคืนซึ่งลูกค้าสามารถรอรับเครื่องได้ทันที
จากแนวทางการทำตลาดเชิงรุก ผนวกกับคุณภาพนวัตกรรมที่แตกต่าง และการมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาด 10% ของตลาดรวมสมาร์ทโฟนภายในปลายปี 2558 โดยผู้ที่สนใจข้อมูลผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนวีโก สามารถดูข้อมูลได้จาก www.wikomobile.co.th หรือ https://www.facebook.com/WikoThailand