นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบ การธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) ระดับแนวหน้าของประเทศไทย เปิดเผยว่า
บริษัทได้รับการยืนยันการจ้างงานก่อสร้างโครงการต่างๆ เพิ่มเติม จำนวนทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่า 176,197,065.79 บาท ได้แก่ งานเสาเข็มเจาะสำหรับงานอาคารโครงการ ICONSIAM ของ บจ. ดิไอคอนสยาม เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น ระยะเวลาก่อสร้าง 115 วัน , งานเสาเข็มเจาะสำหรับงานอาคารโครงการ The Room Sathorn 11 ของ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระยะเวลาก่อสร้าง 89 วัน , งานเสาเข็มเจาะสำหรับงานอาคารโครงการ Aspire Ratchada-Wongsawang (งานเฉพาะค่าแรง) ของบมจ. เอพี (ไทยแลนด์) ระยะเวลาก่อสร้าง 92 วัน, งานเสาเข็มเจาะสำหรับงานอาคารโครงการ Canapaya Residences ของ บจ.คณาพญา พร๊อพเพอร์ตี้ ระยะเวลาก่อสร้าง 78 วัน และ งานเสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคารโครงการ Fuse Miti Suttisan – Ratchada (งานเฉพาะค่าแรง) ของ บมจ. พฤกษา เรียล เอสเตท ระยะเวลาก่อสร้าง 74 วัน
“สำหรับทิศทางงานก่อสร้าง งานฐานรากเสาเข็มเจาะในปีนี้เป็นไปในทิศทางทีดีขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากงานประมูลที่ไหลกลับเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยงานที่เข้ามาส่วนใหญ่ของ PYLON เป็นงานภาคเอกชนราว 70-80% และล่าสุด PYLON ประกาศได้รับงานใหม่เพิ่มเติมอีก 5 โครงการ มูลค่ากว่า 176 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานเสาเข็มเจาะสำหรับงานอาคารทั้งสิ้น สนับสนุนงานในมือในปัจจุบันให้เพิ่มขึ้น และงานทั้ง 5 โครงการดังกล่าวจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ราว 60% ” นายบดินทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการได้รับงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนให้ปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) อยู่ที่ราว 900 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้จากงาน Backlog ดังกล่าวในปีนี้ประมาณ 70% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปีหน้า ประกอบกับ บริษัทฯ อยู่ระหว่างประมูลงานใหม่เพิ่มเติมอีกมูลค่าประมาณ1,800 ล้านบาท เป็นงานภาครัฐบาลราว 900 ล้านบาท และงานภาคเอกชนราว 900 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถได้งานดังกล่าวราว 25-30% สนับสนุนให้เป็นไปตามเป้าหมายรายได้ทั้งปีที่วางไว้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า ที่ระดับ 1,200 ล้านบาท
“หากประเมินภาพรวม PYLON ในช่วงที่ผ่านมา เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ภายในประเทศที่เกิดขึ้น ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองในช่วงครึ่งปีแรก ในฐานะผู้บริหาร ถือว่า PYLON ทำผลงานได้ดีมากและเป็นไปอย่างน่าพอใจ เชื่อว่า ภาพรวมงานก่อสร้างและงานฐานรากเสาเข็มเจาะในปีหน้าจะสดใสกว่าปีนี้ เนื่องจากปัญหาทางการเมืองต่างๆ เริ่มคลี่คลาย โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ เริ่มเดินหน้า รวมถึงงานโครงการต่างๆ จากภาครัฐบาลและเอกชนที่จะเข้ามาสนับสนุน ส่งผลให้ความต้องการผู้รับเหมาก่อสร้างและงานฐานรากมีเป็นจำนวนมาก เป็นอีกปัจจัยสนับสนุน PYLON ให้เติบโตขึ้นในทิศทางเดียวกัน” นายบดินทร์ กล่าว