“เอซีซี” ขึ้นแท่น รร.เตรียมธุรกิจแห่งแรกที่ประกาศตัวเป็นทางการ ประเดิมเปิดหลักสูตรใหม่ “เอซีซี บิสิเนส เพรพ สกูล” หวังปั้นเด็กไทยให้เป็นเถ้าแก่ตั้งแต่เริ่มเรียน

ภราดามีศักดิ์ ว่องประชานุกูล ผู้อำนวยการ โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ กล่าวว่า “เพราะการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจโลก และกฎเกณฑ์ทางการค้าของธุรกิจที่เปลี่ยนไป ประกอบกับปัจจุบันมีเยาวชนที่อยากจะประกอบธุรกิจของตัวเอง หรือสืบทอดธุรกิจของทางบ้านจำนวนมาก ซึ่งเป้าหมายที่จะเรียนในมหาวิทยาลัยก็คือ บริหารธุรกิจ หรือ BBA แต่การที่จะเรียนรู้แค่ 4 ปีในช่วงปริญญานั้น อาจจะไม่เพียงพอต่อการสร้างรากฐานของความเข้าใจในการทำธุรกิจ ดังนั้น โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ ซึ่งเป็นโรงเรียนพาณิชยการแห่งแรกที่สอนภาษาอังกฤษในทุกรายวิชา ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2481 และมีประวัติยาวนานกว่า 75 ปี โดยเรายังเป็นโรงเรียนในเครือมูลนิธิเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยด้วยนั้น จึงได้คิดและพัฒนา หลักสูตร “เอซีซี บิสิเนส เพรพ สกูล” กับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และผู้ประกอบการชั้นนำของประเทศไทย เพื่อให้เด็กไทยในระดับ ปวช. เตรียมเรียนต่อบริหารธุรกิจโดยตรง หรือเรียนต่อปริญญาตรี บริหารธุรกิจและสาขาอื่นๆ ได้อย่างมีความพร้อมและมีศักยภาพควบคู่ไปกับคุณธรรม ภายใต้สภาพแวดล้อมที่สะอาดและสวยงาม สิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน เอื้อต่อบรรยากาศการจัดการเรียนการสอน”

ด้าน สนั่น อังอุบลกุล ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ กล่าวว่า “เป็นที่ทราบกันดีว่า การค้า ธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่างๆ ของในทุกๆ ประเทศ เป็นแรงขับเคลื่อนหลักและมีความสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศนั้นให้มีความเจริญก้าวหน้า และด้วยปัจจุบันที่ทั้งทางภาครัฐและภาคเอกชนเริ่มตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทางด้านเศรษฐกิจในประเทศและในเวทีโลก ที่ต้องยอมรับว่าประเทศไทยของเราค่อนข้างจะมีปัญหาทางด้านความรู้และขีดความสามารถในด้านการแข่งขันของบุคลากร เพราะด้วยรูปแบบเศรษฐกิจในบ้านเรานั้นส่วนใหญ่เป็นแบบธุรกิจขนาดย่อม (SME) มากถึง 97.2% ส่วน 2.8% เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ แต่ในปัจจุบันการแข่งขันค่อนข้างสูง ประกอบกับการเข้ามาของนักลงทุนและนักธุรกิจต่างชาติ ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมานั้นเป็นสิ่งที่ดี ที่สะท้อนถึงความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยที่มีต่อต่างชาติ แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดบุคลากรที่พูดภาษาอังกฤษ และต้องมีความรู้ด้าน Commercial หรือพาณิชยการในคนๆ เดียวกันอีกด้วย และเหตุนี้เอง ทางผู้อำนวยการเอซีซี ท่านอธิการมีศักดิ์ ว่องประชานุกูล ได้ดำริและเปิดโอกาสให้ผมและพวกเราศิษย์เก่าที่อยู่ในวงธุรกิจต่างๆ เข้ามาช่วยให้ข้อมูลความต้องการด้านทักษะของบุคลากรของบริษัทห้างร้าน เพื่อช่วยในการพัฒนาเนื้อหาวิชาในหลักสูตร เสริมประสบการณ์จริง เน้นจุดแข็งด้านภาษาอังกฤษ และภาษาจีน รวมถึงการริเริ่มให้กิจการของศิษย์เก่า เข้าไปสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอนของ เอซีซี เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้ และประสบการณ์ในการทำธุรกิจจริง ผมเองและเพื่อนๆ ศิษย์เก่า เชื่อมั่น และพร้อมที่จะผลักดันก้าวสำคัญของ “เอซีซี บิสิเนส เพรพ สกูล” อาจจะบอกได้ว่า เราจะเป็นโรงเรียนเตรียมธุรกิจแห่งแรกที่ประกาศตัวอย่างเป็นทางการ ในการสร้างขีดความสามารถของนักเรียนนักศึกษาสู่การทำธุรกิจในอนาคต”

ขณะที่ ทรงพล ชัญมาตรกิจ กรรมการที่ปรึกษา โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ ที่ได้มาร่วมแชร์ประสบการณ์ในฐานะศิษย์เก่า เสริมว่า “ก่อนอื่นต้องบอกว่าการปลูกฝังทางด้านการศึกษาในบ้านเรานั้น ให้ความสำคัญกับใบปริญญาบัตรมากกว่าความสามารถด้านธุรกิจ ทำให้ปัจจุบันมีเด็กไม่น้อยที่ค้นหาตัวเองไม่เจอในขณะที่เรียน นอกจากน้องๆ จะเสียเวลา เสียโอกาสแล้ว ประเทศชาติยังขาดบุคลากรที่จะไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วย ดังนั้น สำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีเป้าหมาย มีความฝันที่อยากจะทำธุรกิจ ให้มาเรียนที่นี่ ให้มาลองหามุมมองใหม่ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางและเป็นเหมือนการติดอาวุธให้กับตัวเอง เพิ่มขีดความสามารถของตัวเองให้มากยิ่งขึ้น เพราะน้องๆ ที่เรียนจบจากที่นี้ไป สิ่งแรกเลยที่จะมีติดตัวแน่ๆ คือความสามารถทางด้านธุรกิจ พาณิชยการ และ Common Sense รวมถึงยังได้ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาจีน เป็นข้อดีสำหรับน้องๆ ที่อยากจะศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยอินเตอร์ในสาขาต่างๆ ก็ยังสามารถนำวุฒิที่จบไปสอบเข้าเพื่อเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ทันทีโดยไม่ต้องสอบเทียบ หรือถ้าอยากที่จะเริ่มทำธุรกิจส่วนตัว ผมเองก็สามารถการันตีได้ว่าที่โรงเรียนแห่งนี้สามารถสอนให้เราเรียนรู้เรื่องธุรกิจ และเริ่มต้นทำได้โดยไม่ต้องนับตั้งแต่หนึ่งแน่นอนครับ”

หลักสูตร “เอซีซี บิสิเนส เพรพ สกูล” ทุกรายวิชาจะสอนเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ตลอดช่วง 3 ปี ซึ่งจะช่วยเป็นแรงผลักดันให้กับคนที่สนใจในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย คณะบริหารธุรกิจ (BBA) คณะพาณิชยการศาสตร์และการบัญชี หรือในคณะอื่นๆ ทางสายธุรกิจ รวมไปถึงมหาวิทยาลัยอินเตอร์ชั้นนำของไทย และต่างประเทศ เรียนจบได้วุฒิเทียบเท่า ม.6 ซึ่งสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลได้โดยไม่ต้องสอบเทียบวุฒิ และโดนเฉพาะนักเรียนที่อยากจะศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สามารถยื่นขอเทียบโอนวิชาเรียนได้ไม่ต่ำกว่า 18 หน่วยกิต ซึ่งจะส่งผลให้สามารถเรียนจบหลักสูตรปริญญาตรีได้ภายในระยะเวลาเพียง 3-3.5 ปี...โดยผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายธุรการและทะเบียน โทร : 02-675-5076-76,78-82 ต่อ 101-104 แฟกซ์ : 02-675-5083 หรือ E-mail : [email protected] หรือ www.acc.ac.th