ส.อ.ท. จับมือ องค์กรชั้นนำร่วมจัดโครงการ “ขยายผลส่งเสริมการจัดทำ คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กรในภาคอุตสาหกรรม” พร้อมเปิดตัว 38 องค์กร นำร่อง มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคอุตสาหกรรม

พฤหัส ๒๕ กันยายน ๒๐๑๔ ๑๖:๓๑
สถาบันสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมกับ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) จัดงานสัมมนาเผยแพร่ผลการดำเนินโครงการ “การขยายผลการส่งเสริมการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรในภาคอุตสาหกรรม” ในวันพุธที่ 24 กันยายน 2557 ณ ห้องประชุม จตุรทิศ ชั้น 3 โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน พระราม 9 เพื่อขยายผลให้มีการจัดทำคาร์บอน ฟุตพริ้นท์ขององค์กรในภาคอุตสาหกรรม และวิเคราะห์แหล่งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆ ขององค์กร (Hot Spot) และหาแนวทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งจัดให้มีการทวนสอบและรับรองผลการคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์การภาคอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมโครงการและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบทวนสอบ โดยมีโรงงานเข้าร่วมโครงการ การขยายผลการส่งเสริมการจัดทำคาร์บอนพุตพริ้นท์ขององค์กรในภาคอุตสาหกรรม ทั้งหมด 38 แห่ง

นายเชวง จาว รองประธานอาวุโส สถาบันสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สภาอุตสาหกรรมฯ เป็นองค์กรที่สนับสนุนและเสริมสร้างการพัฒนาศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคอย่างบูรณาการ ยกระดับอุตสาหกรรมไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน (AEC Regional Industrial Hub) สนับสนุนและส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมมีขีดความสามารถการแข่งขันได้ในระดับสากล มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน คำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคม ดำเนินงานภายใต้กรอบขององค์กรที่มีธรรมาภิบาลที่ดี (Good Governance)

จากนโยบายที่เน้นการส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมฯ จึงได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ ดำเนินโครงการที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีการพัฒนากระบวนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งที่ผ่านมา สภาอุตสาหกรรมฯ ได้ดำเนินโครงการร่วมกับผู้ประกอบการ ทั้งด้านการพัฒนาฐานข้อมูลสิ่งแวดล้อมของวัสดุพื้นฐานและพลังงานของประเทศ การจัดทำคู่มือข้อมูลวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ (LCI-LCA) การส่งเสริมการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ และองค์กรในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งได้ดำเนินงานร่วมกับภาคีพันธมิตรที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่องและพยายามขยายผลให้ครอบคลุมไปทุกๆกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง

นายเชวง กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานโครงการในปี 2557 นี้ มีองค์กรนำร่องเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้นจำนวน 38 แห่ง โดยเป็นการขยายผลการดำเนินงานให้คลอบคลุมประเภทอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมากมีการคำนวณข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร และสามารถนำไปบริหารจัดการเพื่อหาแนวทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับภาคอุตสาหกรรมในการเข้าสู่ระบบการซื้อขายใบอนุญาตปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission Trading Scheme) ในกรณีที่ประเทศไทยต้องกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อไปในอนาคต

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ต้องขอขอบคุณ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ ที่เป็นพันธมิตรที่ดีในการสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กรมาโดยตลอด โดยทำการสนับสนุนด้านงบประมาณ บุคคลากรและด้านวิชาการในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงองค์กรนำร่องทั้ง 38 แห่ง ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ทั้งการผลิตและการบริการในองค์กร โดยได้เข้าร่วมเป็นองค์กรนำร่องในการดำเนินโครงการนี้จนบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้

“สำหรับการสัมมนาเผยแพร่ผลการดำเนินโครงการในครั้งนี้ จะเป็นการเปิดตัว 38 องค์กรนำร่อง ที่ได้รับคัดเลือกจากบริษัทที่สนใจสมัครเข้าร่วมประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร จะเป็นสื่อกลางที่ทำให้ทุกภาคส่วนเห็นประโยชน์ และความสำคัญของการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากองค์กรนั้นๆ รวมทั้งทำให้ทุกภาคส่วนได้เข้าใจหลักการในการประเมินค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร และทราบถึงแนวทางในการเตรียมตัวเพื่อขอรับการรับรองผล ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้ประกอบการและธุรกิจของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกได้แล้ว ยังแสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของตนให้สามารถบริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของตนได้ และมีการดำเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยสนับสนุน และเป็นต้นแบบสำหรับองค์กรและหน่วยงานอื่นๆ ในการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงการดำเนินงานขององค์กรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนต่อไป” นายเชวง กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version