สมาคมชาวไร่หนุนโรงงานยาสูบเสนอ คสช. นำงบ สสส. และไทยพีบีเอสเข้าระบบงบประมาณ สอดคล้องนโยบายขุนคลังคนใหม่ ปฏิรูปกองทุนนอกงบประมาณสร้างวินัยทางการคลัง

ศุกร์ ๒๖ กันยายน ๒๐๑๔ ๑๕:๕๘
สมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์จังหวัดสุโขทัยและสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์จังหวัดเพชรบูรณ์ สนับสนุนข้อเสนอโรงงานยาสูบในการนำเงินจากภาษียาสูบที่ส่งให้กองทุน ได้แก่ สำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ที่ได้รับรายรวมปีละ 3,000 – 4,000 ล้าน เข้าสู่ระบบงบประมาณที่มีการตรวจสอบเพื่อการใช้งบอย่างมีประสิทธิภาพ

นายสมนึก ยิ้มปิ่น ผู้จัดการสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เล่ย์จังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า “สมาคมชาวไร่ยาสูบฯ เห็นด้วยอย่างยิ่งกับข้อเสนอของโรงงานยาสูบ เพราะกองทุนนอกงบประมาณแบบนี้ผิดหลักวินัยทางการคลัง การจัดสรรเงินต่างๆ ควรผ่านระบบงบประมาณตามปกติและผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรเพราะเป็นภาษีของประชาชนผู้บริโภค ไม่เข้าใจว่าทำไม สสส. จะต้องออกมาโจมตีข้อเสนอของโรงงานยาสูบทั้งๆ ที่ข้อเสนอของโรงงานยาสูบเป็นการเสนอเปลี่ยนวิธีจ่ายเงินอุดหนุน ไม่ใช่งดการส่งรายได้ให้ ซึ่งถ้าองค์กรมีความโปร่งใสตามที่กล่าวอ้างและมีการตรวจสอบอยู่แล้วก็ไม่เป็นมีประเด็นอะไรที่ต้องเป็นกังวล”

นอกจากนั้น สมาคมชาวไร่ยาสูบฯ ยังเห็นว่าข้อเสนอของโรงงานยาสูบดังกล่าว ยังสอดคล้องกับแนวนโยบายกระทรวงการคลังที่ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แถลงเมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในนโยบายที่สำคัญคือ การส่งเสริมความยั่งยืนและความโปร่งใสทางการคลัง โดยกระทรวงการคลังมีแผนงาน การเร่งผลักดันร่างพ.ร.บ.การเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.... ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้การดำเนินการด้านการเงินการคลังของประเทศในอนาคตมีความโปร่งใส มั่นคง และยั่งยืนในระยะยาว และการทบทวนบทบาทและการกำกับดูแลกองทุนนอกงบประมาณเพื่อสร้างวินัยทางการคลัง

ปัจจุบัน สำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่ได้รับรายได้จากภาษีบาปปีละ 2% และ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ที่ได้รับรายได้ปีละ 1.5% ซึ่งรายได้ที่ สสส.ได้รับตลอด 10 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2547 – 2556 มีตัวเลขมากถึง 28,133.58 ล้านบาท

“โดยนอกจากกองทุนสสส. และกองทุนสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสแล้ว ขณะนี้มีกองทุนอื่นๆ ที่กำลังรอออกกฎหมายเพื่อขอจัดตั้งอีก 3 กองทุน ได้แก่กองทุนจากกระทรวงการศึกษาธิการ กองทุนพัฒนาการท่องเที่ยว และกองทุนการกีฬา ซึ่งทั้งกองทุนพัฒนาการท่องเที่ยวและกองทุนการกีฬา จะขอเก็บภาษีบาป 2% ซึ่งแต่ละกองทุนจะมีรายได้ปีละ 3,000 – 4,000 ล้านบาท จะส่งผลให้เม็ดเงินในกองทุนนอกระบบทั้งหมดสูงยิ่งขึ้นไปอีกเป็นหลักหมื่นล้านบาทต่อปี หาก สสส.และองค์กรอื่นๆ อ้างเหตุผล

เดียวกันว่าว่ากลัวไม่ได้งบประมาณตามปกติจึงต้องมีกฎหมายพิเศษให้กับตัวเอง ประเทศชาติก็จะลำบาก ข้อเสนอของโรงงานยาสูบจึงมีเหตุผลที่ทาง คสช.และกระทรวงการคลังควรนำมาพิจารณาปฏิรูปกองทุนต่างๆ” นายสงกรานต์ ภักดีจิตร นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวเสริม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ