นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า การส่งเสริมให้สังคมไทยเป็นสังคมคุณธรรม โดยบ้าน ศาสนา และโรงเรียน จะเป็นหลักให้กับประชาชนเพื่อให้มีส่วนร่วมในการส่งเสริม ชุนชนคุณธรรม โดยมีสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดและองค์กรเครือข่ายทางวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานในการขับเคลื่อน พัฒนา และขยายผลต่อยอดจากการดำเนินงานจากศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ โครงการหมู่บ้านศีล 5 และครูพระสอนศีลธรรม ที่กรมการศาสนาได้ดำเนินการอยู่ รวมถึงการส่งเสริมคุณธรรมองค์กรทางศาสนาอื่น เพื่อร่วมเป็นพลังในการขับเคลื่อนให้เป็น “ชุมชนคุณธรรม”ที่เอื้ออาทร มีความสมานฉันท์ โดยส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในทุกพื้นที่ บ่มเพาะปลูกจิตสำนึกและเผยแผ่ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ของชาติ กระตุ้นให้คนในชุมชนมีศรัทธาและยึดมั่นในศาสนา มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ มีความละอาย เกรงกลัวต่อบาป ตามหลักของศาสนา รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้จักอดออม พอกินพอใช้ มีภูมิคุ้มกันที่ดี เกิดความรัก ความผูกพันในบ้านเกิด และมีความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของท้องถิ่น รู้จักการสร้างสรรค์ สินค้าผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม (CPOT) เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวและชุมชน และสร้างเสริมสังคมที่มีความสงบสุข
นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา ได้กล่าวว่า กรมการศาสนา ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นนโยบายหลักในการดำเนินงานเพื่อให้เกิด “ชุมชนคุณธรรม โดย เปิดพื้นที่ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของชุมชนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมให้คนในชุมชนพึ่งพาตนเอง ใช้ชีวิตที่เหมาะสมตามสภาพของสังคมและวัฒนธรรมในท้องถิ่น รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม จากการมีส่วนร่วมและความเสียสละของคนในชุมชนนั้น ๆ โดยจะขับเคลื่อนให้ก้าวสู่ “สังคมคุณธรรม” ด้วยการยึดมั่นในข้อปฏิบัติหลัก ๓ ประการ คือ ๑)การยึดถือและปฏิบัติตามหลักธรรมทางศาสนา ๒) มีการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติ และ๓) มีการดำรงชีวิตตามวิถีวัฒนธรรมไทย ดังนั้น เพื่อให้เกิดกระบวนการในการขับเคลื่อนให้เกิดชุมชนคุณธรรมขึ้นในสังคมให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยมีชุมชนคุณธรรมเป็นแบบอย่างสำหรับชุมชนอื่นๆทั่วประเทศ