รอรีย์ แมคอิลรอย นักกอล์ฟของไนกี้ กอล์ฟ ที่ครองมือหนึ่งของโลกในขณะนี้ มีแผนที่จะเพิ่มพลังลงสู่ถุงกอล์ฟของเขาในสัปดาห์นี้ด้วยการนำไดร์ฟเวอร์รุ่นล่าสุด Vapor Pro ลงทดสอบในสนามแข่งขันรายการ Ryder Cup 2014 ที่สกอตแลนด์ ไดร์ฟเวอร์ตัวใหม่นี้มีคุณลักษณะที่เฉพาะตัวด้วยสีดำที่ด้านบน สีเหลืองสะท้อนแสงที่ โพรงด้านหลังที่เว้าลึก และ Compression Channel ให้พลังพุ่งทะยานด้วยสปินต่ำ และเพิ่มความเร็วทั่วบริเวณหน้าไม้
รอรีย์ มีบทบาทเป็นอย่างมากในการพัฒนาไดร์ฟเวอร์ Vapor Pro นี้ รอรีย์ต้องการให้ไดร์ฟเวอร์นี้มีขนาด 460cc และรูปทรงแบบลูกแพร์เช่นเดียวกับ Nike Covert Tour 2.0 ซึ่งเขาได้ใช้สู้ศึกได้อย่างน่าประทับใจในหลาย ๆ สนามในฤดูกาล 2014 นี้ แต่เขายังต้องการไดร์ฟเวอร์ที่มีเสถียรภาพและมีความเร็ว รวมทั้งความยืดหยุ่นตลอดหน้าไม้ด้วย
“สิ่งแรกที่ผมสังเกตได้จากการตีด้วยไดร์ฟเวอร์นี้ก็คือความร้อนแรงของมัน จากนั้นผมก็รู้สึกว่าผมสามารถควบคุมการเหินลอยของลูกได้ ผมเห็นความเร็วของลูกที่เพิ่มขึ้นจากเครื่องตรวจจับ และสามารถทำระยะได้เพิ่มขึ้น 10-15 หลาในสนาม” รอรีย์ กล่าว
ไดร์ฟเวอร์ Vapor Pro รุ่นนี้ได้รวมเอาเทคโนโลยีสำคัญไว้ถึง 3 ตัวด้วยกัน ได้แก่ Nike FlyBeam แบบใหม่ที่เพิ่มพลังให้กับ Covert Cavity Back ทำให้, Compression Channel และ FlexLoft 2 ซึ่งเทคโนโลยีทั้ง 3 นี้จะช่วยให้นักกอล์ฟสามารถแสดงฝีมือการเล่นออกมาได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นระยะทาง ความเร็วและสภาวะการออกตัว
“เพื่อที่จะยกระดับสมรรถนะการเล่นให้สูงขึ้น เราได้ทำการเพิ่มเทคโนโลยี FlyBeam ให้กับ Covert Cavity Back เพื่อเพิ่มพลังให้กับ Compression Channel ซึ่งสามารถยืดหยุ่นได้พร้อมผสานเทคโนโลยีหน้าไม้ NexCOR ซึ่งส่งผลให้ความเร็วลูกกอล์ฟสูงสุด และนี่นับเป็นครั้งแรกที่เราได้สร้างสรรค์ไดร์ฟเวอร์ที่มีหน้าไม้กับชานเนลที่ให้ความยืดหยุ่นได้มากกว่าตัวหัวไม้” เนท ราดคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม กล่าว
โครงสร้างของ FlyBeam ยึดติดกับส่วนของ Covert Cavity ที่ด้านหลังของหัวไม้ ในขณะที่ Compression Channel ที่ทำหน้าที่คล้ายสปริงซึ่งสามารถยืดหยุ่นได้ ย้ำให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่คล้ายกับสปริงขณะตี และเมื่อทั้งสองสิ่งนี้ทำงานร่วมกันจะทำให้การตีนั้นมีพลัง และถูกปลดปล่อยสู่ลูกกอล์ฟไม่ว่าจะโดนตรงส่วนไหนของหน้าไม้
“นี่เป็นครั้งแรกที่เราวัดค่าความถี่ที่เป็นรูปธรรมได้สูงขึ้นที่ส่วนท้ายของหัวไม้ได้มากกว่าส่วนหน้า ซึ่งหมายความว่าพลังงานที่เกิดขณะตีลูกที่จุดกระทบนั้นถูกรวมอยู่ในชานเนลและหน้าไม้ซึ่งก่อให้เกิดการสะท้อนและเพิ่มการถ่ายโอนพลังงานได้อย่างสูงสุด และผลลัพธ์นี้ทำให้การตีลูกเกิดความเร็วของลูกที่มากขึ้น อย่างที่เราเห็นในการตีไม่ว่าจะเป็นจากนักกอล์ฟของเรา หรือการทดสอบด้วยหุ่นยนต์ก็ตาม” เนท ราดคลิฟฟ์ กล่าวเพิ่มเติม
FlexLoft 2 นั้นทำให้นักกอล์ฟสามารถปรับรูปแบบการใช้งานได้ 15 รูปแบบที่หลากหลาย ด้วยการปรับองศา Loft ได้ 5 ระดับ และปรับองศาหน้าไม้ได้อีก 3 ระดับ ส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาใหม่ก็คือ น้ำหนักที่เบาลงถึง 5 กรัม (30%) โดยไม่มีผลเสียใดๆ กับการทำงานของหัวไม้ วิธีการกระจายมวลแบบใหม่ที่สามารถเพิ่มเสถียรภาพ ให้สภาวะการออกตัวที่ดีกว่าเดิม และเพิ่มความเร็วของวงสวิง นอกจากนี้ยังสามารถใช้เล่นสลับไปมาได้กับหัวไม้ Covert ตัวเดิมด้วยก้านเดียวกัน
ไดร์ฟเวอร์ Vapor Pro จะออกวางจำหน่าย ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 เป็นต้นไป
Nike Vapor Pro
เริ่มวางจำหน่าย : วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558
คุณลักษณะเฉพาะ : 8.5° – 12.5° loft; Mitsubishi Diamana S+ Blue Board 60 shaft; RH/LH: R, S, X flex