“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการเปิดตัวของโรงแรมเดอะ เลค การ์เด้น เนปิดอ สมาชิกใหม่ของเอ็มแกลลอรี่ คอลเล็คชั่น ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นโรงแรมแห่งแรกของแอคคอร์ในประเทศเมียนมาร์ หากช่วยตอกย้ำความสำเร็จที่เราได้กลับเข้าสู่ประเทศเมียนมาร์อีกครั้ง” มร.แพทริค บาสเซ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการแอคคอร์ ประจำประเทศไทย เวียดนาม เกาหลีใต้ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์และฟิลิปปินส์ กล่าว “แอคคอร์เล็งเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวที่เริ่มหลั่งไหลมายังประเทศเมียนมาร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการโรงแรมระดับบนที่มีมาตรฐานสากลและบริการที่ไว้ใจได้มีมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการเปิดโรงแรมแห่งนี้จะช่วยรองรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์การเข้าพักอันแสนประทับใจกลางกรุงเนปิดอได้เป็นอย่างดี” มร.แพทริค บาสเซ กล่าวเสริม
เอ็มแกลเลอรี่ เป็นคอลเล็คชั่นของโรงแรมระดับบนในเครือแอคคอร์ โดยโรงแรมแต่ละแห่งจะมีความโดดเด่นในเรื่องของเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยจะแบ่งออกเป็นโรงแรม 3 ประเภท คือ โรงแรมที่มีเอกลักษณ์สะท้อนความงามด้านสถาปัตยกรรม (Signature) โรงแรมที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม (Heritage) และโรงแรมที่มอบความเงียบสงบและผ่อนคลาย (Serenity) ทั้งนี้ด้วยสถาปัตยกรรมและทำเลที่ตั้งอันรายล้อมด้วยทะเลสาปและธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ โรงแรมเดอะ เลค การ์เด้นจึงจัดอยู่ในประเภท โรงแรมที่มอบความเงียบสงบและผ่อนคลาย (Serenity)
มร.เดวิด ดากีส ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมเดอะ เลค การ์เด้น กล่าวว่า “ โรงแรมแห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนอันแสนสงบที่ผู้เข้าพักจะได้พบกับความผ่อนคลายอย่างเต็มที่และยังจะได้ดื่มด่ำกับสถาปัตยกรรมของเมียนมาร์แบบร่วมสมัยซึ่งสะท้อนถึงความรุ่งเรืองของวัฒนธรรมสมัยเก่าไว้อย่างลงตัว นอกจากนี้ด้วยสเน่ห์ของคนประจำท้องถิ่นในกรุงเนปิดอผนวกกับบริการชั้นเลิศมาตรฐานระดับสากล เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งเหล่านี้จะช่วยตราตรึงความประทับใจในการเข้าพักให้แก่แขกทุกท่านอย่างไม่รู้ลืม”
ในด้านการตกแต่งบริเวณหน้าโรงแรมจะมีระฆังตั้งตระหง่านจำนวน 3 ใบ โดยระฆังดังกล่าวเป็นอนุสรณ์ของระฆังมิงกุน สิ่งสักการะคู่เมืองของประเทศเมียนมาร์ซึ่งเป็นระฆังที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ทั้งยังเป็นที่มาของโลโก้และคอนเซ็ปของโรงแรมอีกด้วย นอกจากนี้การตกแต่งโรงแรมเปี่ยมไปด้วยงานศิลปะหลากชนิด ทั้งงานรูปหล่อโลหะทรงคล้ายบาตรขนาดยักษ์ ณ บริเวณล็อบบี้ งานแกะสลักผนังด้วยตัวอักษรเมียนมาร์ ทางเดินใต้ประตูรูปโค้งมน และงานศิลปะอีกหลากหลายรูปแบบทั่วบริเวณโรงแรม
โรงแรมแห่งนี้มีอาคารจำนวน 4 หลังและมีห้องพักจำนวน 165 ห้อง ประกอบด้วยห้องเพรสซิเดนท์เชียล สวีท (Presidential Suites) จำนวน 2 ห้อง ห้องเอ็กเซ็กคิวทีฟ สวีท (Executive Suites) จำนวน 8 ห้อง ห้องดีลักซ์ สวีท (Deluxe Suites) จำนวน 30 ห้อง ห้องดีลักซ์ (Deluxe Rooms) จำนวน 64 ห้อง และห้องซูพีเรีย (Superior Rooms) จำนวน 61 ห้อง แต่ละห้องพักออกแบบให้กว้างขวางและปลอดโปร่งเพื่อสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลายมากที่สุด พร้อมสรรพด้วยเครื่องใช้สอยและอุปกรณ์เทคโนโลยีอย่างครบครัน ประดับด้วยงานฝีมือที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมและความเป็นมาของเมียนมาร์ได้อย่างงดงาม
- ห้องซูพีเรีย (Superior Rooms) ให้ความรู้สึกสงบเย็นด้วยผนังสีขาวชวนรำลึกถึงเจดีย์ต่างๆในประเทศ เพิ่มลูกเล่นในการตกแต่งด้วยงานไม้ขัดเงาและผ้าสีแดง แสดงถึงจีวรของพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์
- ห้องดีลักซ์ (Deluxe Rooms) และ ห้องดีลักซ์ สวีท (Deluxe Suites) ให้ความรู้สึกร่มเย็น ด้วยไม้สัก ผสมผสานกับด้ายสีทองบนผืนผ้าทำให้เห็นภาพเจดีย์ประดับด้วยใบไม้สีทองบนฝาผนัง
- ห้องเพรสซิเดนท์เชี่ยล สวีท (Presidential Suites) และ ห้องเอ็กเซ็กคิวทีฟ สวีท (Executive Suites) ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง ด้วยขนาดที่กว้างขวางและการตกแต่งอย่างมีระดับ
สำหรับบริการอาหารและเครื่องดื่ม ทางโรงแรมมีห้องอาหารเดอะ แกรนด์ เบล (The Grand Bell) ห้องอาหารที่ใช้ระฆังเป็นธีมหลักในการการตกแต่ง ให้บริการอาหารพื้นเมืองและอาหารเอเชียนหลากหลายประเภทตลอดทั้งวัน ห้องเดอะ โอ๊ค รูม (The Oak Room) ให้บริการเครื่องดื่มหลายชนิด ไวน์ชั้นเลิศ และซิการ์ชั้นนำ พร้อมเพิ่มบรรยากาศคลับเล้าจน์ด้วยเก้าอี้หนังตัวโปรดนุ่มสบาย ห้องอาหารอิตาเลียน เดอะ พรีโม่ (The Primo) ให้บริการอาหารสไตล์เมดิเตอเรเนียนสูตรต้นตำรับ
ด้านการจัดประชุมและสัมมนา โรงแรมเดอะ เลค การ์เด้น มีห้องประชุมที่สามารถรองรับแขกได้มากถึง 250 ท่าน มีห้องสัมมนาย่อยจำนวน 6 ห้อง รวมถึงห้องบอร์ดรูมอีกจำนวน 2 ห้อง นอกจากนี้ยังมีห้องฟิตเนส สตูดิโอ เอ็มฟิต (MFit) ที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน พร้อมทั้งสระว่ายน้ำกลางแจ้งและคอร์ทเทนนิสด้วย ด้านสปาทรีทเม้นต์ ณ ห้องเอ็มสปา (MSpa) ของโรงแรมนำเสนอศาตร์ในการปรนนิบัติเรือนร่างด้วยทรีทเม้นต์สูตรพิเศษของชาวเมียนมาร์ ซึ่งเชื่อกันว่าจะสามารถขจัดความอ่อนล้าได้ทั้งกายและใจ