วธ.ผลักดันผู้บริจาคเงิน ลดหย่อนภาษี กระตุ้นยอดบริจาค ส่งเสริมแหล่งเรียนรู้นอกโรงเรียน

ศุกร์ ๐๓ ตุลาคม ๒๐๑๔ ๑๕:๓๓
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวในการประชุมกำหนดแนวทางการลดหย่อนภาษี เมื่อเร็วๆนี้ ว่ากระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการทบทวนมาตรการทางภาษี 2 ฉบับ คือ กฎกระทรวงการคลัง ฉบับที่ ๓๐๒ (พ.ศ.๒๕๕๖) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร กำหนดให้บุคคลธรรมดาที่บริจาคเงิน เพื่อบูรณะโบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุ ตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สามารถนำยอดเงินบริจาคดังกล่าวไปหักลดหย่อนภาษีได้เท่าจำนวนที่บริจาค แต่ยอดเงินที่ได้บริจาคดังกล่าวต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมิน และพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๔๐) พ.ศ.๒๕๕๕ กำหนดให้บุคคลธรรมดาที่บริจาคเงินให้แก่กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม สามารถนำเงินบริจาคดังกล่าวไปหักลดหย่อนภาษีในการคำนวณภาษีได้เท่าจำนวนที่บริจาค แต่ยอดเงินที่บริจาคดังกล่าวต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมิน เพื่อเป็นการจูงใจให้มีการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินเพื่อการดำเนินงานของกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรมในการสืบทอดเอกลักษณ์และดำรงไว้ซึ่งจารีตประเพณีและวัฒนธรรมไทย สมควรยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า เมื่อทบทวนมาตรการดังกล่าวแล้ว จะเห็นว่ามาตรการทั้งสองฉบับจะเอื้ออำนวยในด้านโบราณสถาน และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเป็นหลัก ซึ่งยังไม่ครอบคลุมงานด้านอื่นๆของกระทรวงวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับศิลปะและกิจกรรมที่ส่งเสริมวัฒนธรรม อาทิ หอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุ และโรงละครแห่งชาติ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้นอกโรงเรียนแต่ยังไม่รับการลดหย่อนภาษี ในขณะที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้รับการลดหย่อนภาษีสถานศึกษาถึง 2 เท่า ทั้งที่สถานที่เหล่านี้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่ให้การศึกษาแก่เยาวชนและประชาชนเช่นเดียวกับการสถานศึกษา กระทรวงวัฒนธรรมก็น่าจะขอลดหย่อนภาษีให้กับผู้บริจาคได้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ตนได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย ของกระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาเพื่อหาแนวทางในการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้บริจาค เพื่องานและกิจกรรมในการดำเนินงานทางวัฒนธรรม โดยมอบหมายให้รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน โดยนำต้นแบบในการลดหย่อนภาษีของประเทศสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) เกาหลี และสิงคโปร์ ที่ลดหย่อนภาษีถึง 2 เท่าให้ผู้บริจาค และเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับศิลปวัฒนธรรมสูงมาก มาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน โดยจะต้องศึกษาถึงผลกระทบถึงการขาดรายได้ของกรมสรรพากรด้วย ซึ่งหากมาตรการนี้สำเร็จ จะทำให้ภาคเอกชน และประชาชนมาบริจาค เพื่อพัฒนางานด้านวัฒนธรรมมากยิ่งขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๗ เอ. เจ. พลาสท์ คว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก SET Awards 2024 และได้รับการประเมิน CGR ดีเลิศ ระดับ 5 ดาว
๑๖:๑๓ เปิดมาตรการ พักหนี้ ลดดอกเบี้ย ช่วยเหลือ SMEs ถูกน้ำท่วมในงาน มันนี่ เอ็กซ์โป 2024 เชียงใหม่
๑๖:๓๙ หน้าหนาวมาเยือน! กรมอนามัยเตือนดูแลสุขภาพให้พร้อม เด็กเล็ก-ผู้สูงอายุเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย
๑๖:๕๗ เปิดรันเวย์อวดผลงานไอเดียสร้างสรรค์ของ 5 ผู้ชนะรางวัลทุนการศึกษา จากโครงการ Jaspal Group Scholarship Program
๑๖:๐๘ กิฟฟารีน แนะนำไอเทมเด็ด กิฟฟารีน เอช เอ็ม บี พลัส วิตามินดี 3 สำหรับช่วยดูแลมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
๑๕:๐๑ ไขข้อสงสัย สินเชื่อรถแลกเงินคืออะไร
๑๕:๓๘ ซื้อมอเตอร์ไซค์ ออกรถใหม่ มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง
๑๕:๐๕ ยางขอบ 17 ยี่ห้อไหนดีที่ขับขี่สนุก และยังคงนุ่มสบาย
๑๔:๕๖ heygoody คว้าแชมป์จากเวที Thailand Influencer Awards 2024 ตอกย้ำความเข้าใจลูกค้า Introvert
๑๔:๐๓ เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากล ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และเป็นองค์กรสถานประกอบการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการ