สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดการประกวดนางสาวไทยประจำปี พ.ศ.2557 โดยมี พลตำรวจโท เจตนากร นภีตะภัฏ นายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ นางดวงใจ มหารักขกะ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ร่วมลงนามและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมผุดกิจกรรมภายใต้แนวคิด “8 ทศวรรษ แห่งตำนาน ความงดงามคู่แผ่นดิน” (INFINITY OF BEAUTY) เฉลิมฉลองการเข้าสู่ 8 ทศวรรษแห่งตำนานการค้นหาผู้หญิงที่สวยที่สุดในประเทศไทย พร้อมกิจกรรมสุดพิเศษมากมาย
ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 6 ที่ บมจ.อสมท ได้รับเกียรติจากสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยฯ ให้เป็นผู้จัดการประกวดนางสาวไทย โดยได้รับสิทธิ์อย่างเป็นทางการครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2551 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ทำหน้าที่เป็นเวทีเฟ้นหาสุภาพสตรีที่มีความเพียบพร้อมทั้งความงาม ความรู้และความสามารถ เพื่อเป็นตัวแทนสุภาพสตรีไทย ในการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม และเผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในระดับสากล โดยมีนางสาวไทยที่ได้รับตำแหน่งจากเวทีที่ บมจ. อสมท จัดขึ้นแล้ว 5 คน คือ นางสาวไทยประจำปี พ.ศ. 2551 พรรณประภา ยงค์ตระกูล นางสาวไทยประจำปี พ.ศ. 2552 อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ นางสาวไทยประจำปี พ.ศ. 2553 กฤชภร หอมบุญญาศักดิ์ นางสาวไทยประจำปี พ.ศ. 2555 ปริศนา กัมพูสิริ และ นางสาวไทยประจำปี พ.ศ. 2556 อัจฉราภรณ์ กนกนทีสวัสดิ์
สำหรับการจัดการประกวดนางสาวไทยประจำปี พ.ศ.2557 เป็นการเปิดเวทีค้นหาผู้หญิงที่สวยที่สุดในประเทศไทยคนที่ 49 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “8 ทศวรรษแห่งตำนาน ความงดงามคู่แผ่นดิน” (INFINITY OF BEAUTY) เพื่อ เฉลิมฉลองการเข้าสู่ 8 ทศวรรษแห่งตำนานการค้นหาผู้หญิงที่สวยที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มรับสมัครในวันที่ 16 – 19 ตุลาคม นี้ ณ เดอะ ช็อปปส์ แกรนด์ พระราม 9 จัดการแถลงข่าวรอบ 24 คนสุดท้าย ในวันที่ 29 ตุลาคม และ การประกวดรอบตัดสิน ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2557 ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์
นางดวงใจ มหารักขกะ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวคิดการจัดงาน ในครั้งนี้ว่า
“ในปีนี้ เป็นการครบรอบ 80 ปี หรือ 8 ทศวรรษ ในการจัดประกวดนางสาวไทย ซึ่งผู้ที่ได้รับตำแหน่งสูงสุดนอกจากจะได้รับมงกุฎเพชรแล้ว ยังจะได้ครองคฑาอันทรงเกียรติดังเช่นนางสาวไทยในยุคสมัยแรกๆ จากสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยฯ และสำหรับผู้ได้รับตำแหน่งรองนางสาวไทย อันดับที่ 1 และอันดับที่ 2 ก็จะได้รับมอบมงกุฎเพชร อีกด้วย"
สำหรับกิจกรรมเก็บตัวผู้เข้าประกวด 24 คนสุดท้าย จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 6 พฤศจิกายน ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยผู้เข้าประกวดจะต้องสวมชุดว่ายน้ำเพื่อให้กรรมการพิจารณาให้คะแนน พร้อมทั้งทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อการบำเพ็ญประโยชน์และช่วยประชาสัมพันธ์วิถีชีวิต วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของจังหวัด หลังจากนั้น จะเป็นการประกวดรอบความสามารถพิเศษ ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ณ สตูดิโอ 1 บมจ.อสมท การประกวดรอบสื่อมวลชน ในวันที่ 21 พฤศจิกายน และการประกวดรอบตัดสินในวันที่ 22 พฤศจิกายน โรงละครอักษรา คิง เพาว์เวอร์
นางดวงใจ มหารักขกะ กล่าวยืนยันถึงความพร้อมของ บมจ.อสมท ในการจัดการประกวดฯ ครั้งนี้ว่า“บมจ.อสมท มีศักยภาพความพร้อมในทุกๆ ด้าน ที่จะสนับสนุนการจัดการประกวดฯ โดยได้บูรณาการสื่อทั้งหมดภายใต้เครือข่ายของ อสมท เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์และสนับสนุนการจัดประกวดฯ ให้ประสบความสำเร็จสูงสุด”