ทั้งนี้ โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 5 มีความสามารถในการผลิตก๊าซธรรมชาติในปริมาณ 570 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันโดยมีกำลังการผลิตก๊าซแอลพีจีสูงสุดที่ 2,500 ตันต่อวันเพื่อจ่ายก๊าซธรรมชาติและก๊าซแอลพีจีเป็นเชื้อเพลิงให้แก่โรงไฟฟ้า ภาคธุรกิจอุตสาหกรรม และภาคปิโตรเคมี ซึ่งในช่วงที่ดำเนินการซ่อมแซม ปตท. ได้บริหารจัดการปริมาณก๊าซแอลพีจีเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ โดยลดการจ่ายก๊าซแอลพีจีในภาคอุตสาหกรรมและภาคปิโตรเคมี เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาคครัวเรือนผู้ใช้พลังงาน
“จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ปตท. ได้ทบทวนและปรับปรุงอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อป้องกันและเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะการคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้พลังงาน ซึ่งเป็นพันธกิจสำคัญที่ ปตท. มุ่งมั่นตลอดมาทั้งในวันนี้และในอนาคต” นายชาครีย์ กล่าวเสริมในตอนท้าย