สมาคมนักข่าวฯเปิดโครงการบริจาคโลหิต ร่วมเป็นผู้ให้สร้างประโยชน์ต่อสังคมไทย

อังคาร ๑๔ ตุลาคม ๒๐๑๔ ๑๑:๓๒
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เปิดตัวโครงการ ๖๐ ปี สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย “ปฏิวัติคนข่าว อภิวัฒน์สื่อ” พร้อมโครงการนำร่อง บริจาคโลหิต เชิญชวนเพื่อนนักข่าวร่วมเป็นผู้ให้เพื่อทำประโยชน์ต่อสังคม

นางสาวชุติมณฑน์ ศรีขำ เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสเปิดตัวโครงการ ครบรอบ ๖๐ ปี สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรสื่อมวลชนที่นอกจากจะมีภารกิจเพื่อการพัฒนาการประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนให้ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนมาตรฐานจริยธรรมแล้ว สื่อมวลชน ยังทำหน้าที่เป็นผู้นำเสนอ ข่าวสารความรู้ ต่อสารธารณชน แล้ว ยังต้องสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาที่เน้นการเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การเป็นผู้นำทางความคิด อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ที่เกิดขึ้นต่อสังคมโดยรวมไปพร้อมกันด้วย

ซึ่งในโอกาสนี้ ทางสมาคมนักข่าวฯ ตระหนักถึงการเป็นผู้ให้กลับคืนต่อสังคม พร้อมกันด้วย โดยจัดโครงการ ร่วมบริจาคโลหิตให้กับทางสภากาชาดไทย นำร่องในวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๗ และจะดำเนินโครงการต่อเนื่อง ทุกๆ ๖ เดือน ไปจนถึง วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๙ ในโอกาสนี้ ขอเชิญชวน สื่อมวลชน เข้าร่วมโครงการบริจาคโลหิตของสมาคม ฯในโอกาสต่อไป

เพราะ ทางคณะกรรมการสมาคมฯได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เมืองไทยเป็นเมืองที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และให้ความสำคัญกับการทำบุญเพื่อสร้างถาวรวัตถุ หรือถวายจตุปัจจัยต่างๆแก่พระสงฆ์ โดยมีความเชื่อว่า ได้ทำความดีเพราะได้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาไว้ให้ยั่งยืนสืบไป

ซึ่งการทำบุญในรูปแบบนี้เรียกว่า “ทานมัย” โดยอานิสงส์ของการให้ทานมัย ย่อมส่งผลเป็นความสุขเสมอ และจะเป็นบุญที่ย้อนกลับมาถึงตัวเราในลักษณะที่แตกต่างกันไป ดังเช่นที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า "บุคคลให้อาหารชื่อว่าให้กำลัง ให้ผ้าชื่อว่าให้วรรณะ ให้ยานพาหนะชื่อว่าให้ความสุข ให้ประทีปโคมไฟเชื่อว่าให้จักษุ และให้ที่พักพาอาศัยชื่อ ว่าให้ทุกสิ่งทุกอย่าง" โดยการให้ทานที่จะส่งผลมากหรือน้อยมีหลักสำคัญประการหนึ่งที่ว่า ของที่ให้ทานเป็นของที่ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ ไม่ใช่ของที่โกงหรือลักจากผู้อื่นมา ซึ่ง “การให้” ในสิ่งที่ผู้ให้ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่มีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การเป็นผู้นำทางความคิดให้แก่สังคมไทยในโอกาสนี้คือ

การให้หรือการบริจาคโลหิต เพราะผู้ให้ได้มาโดยสร้างขึ้นเองซึ่งเป็นความบริสุทธิ์อย่างแท้จริงโดยไม่ได้ใช้เงินซื้อหา อีกทั้งเมื่อให้หรือบริจาคไปแล้วผู้ให้จะได้รับผล คือความสุข แล้วยังได้รับบุญที่ย้อนกลับมาถึงตัวผู้ให้ได้อย่างทันตาเห็น เพราะการบริจาคโลหิตมีเงื่อนไขว่า ผู้ให้จะต้องเป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรงจึงจะสามารถบริจาคโลหิตให้ผู้อื่นได้ หากปลูกฝังความคิดการให้นี้แก่ผู้คนในสังคมได้ประเทศเราก็จะมีพลเมืองที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเพื่อเป็นผู้ให้หรือผู้บริจาคทานด้วยโลหิตซึ่งทำให้ได้รับอานิสงส์ตามคำสอนของพระพุทธองค์เพิ่มขึ้นให้ทันยุคสมัยอีกประการหนึ่ง คือ “บุคคลให้โลหิต ชื่อว่า ให้ชีวิต” เพราะโลหิตหมายถึงชีวิตของเพื่อนมนุษย์อันเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่อีกประการหนึ่ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO