ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนเป็นตลาดที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้สำหรับนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ สืบเนื่องมาจากลอนดอนเป็นเมืองระดับโลก ที่มีกฎหมาย และโครงสร้างทางการเมืองที่แข็งแกร่ง ซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุนชาวเอเชียให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนชาวฮ่องกง สิงค์โปร์ และจีน นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2551 ราคาที่อยู่อาศัยในลอนดอนก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากราคาเฉลี่ยสูงสุด 400,000 ปอนด์ ในปีพ.ศ. 2551 เพิ่มสูงถึง 30% ในปัจจุบันเมื่อเทียบกับราคาที่สูงที่สุดของดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในปีพ.ศ. 2550
พอล เบนเน็ตต์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศของเบิร์กเลย์กรุ๊ป ให้ความเห็นว่า "ความต้องการโครงการบ้านของเบิร์กเลย์ เพิ่มขึ้นในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ประเทศฮ่องกง และสิงค์โปร์ อีกทั้งตอนนี้ได้ขยายเข้ามายังประเทศไทย เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอโครงการต่างๆ ของเบิร์กเลย์สู่ตลาดในกรุงเทพมหานคร และครั้งนี้เรามอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าชาวไทย โดยจากการเปิดตัวโครงการทั้ง 4 โครงการ ซึ่งได้แก่ โครงการ วัน ทาวเวอร์บริดจ์, วัน แบล็คแฟรเออร์, วันไนน์โอ สแทรนด์ และ วิมเบิลดัน ฮิลล์ ปาร์ค เราได้เลือกประเทศไทยเป็นที่แรกในการขาย เพื่อนำเสนอยูนิตที่พิเศษที่สุด โดยโครงการระดับพรีเมียมมาจัดแสดงไว้ในงานนี้ ซึ่งทุกโครงการอยู่บนทำเลที่ตั้งที่น่าสนใจ สามารถสัมผัสบรรยากาศในฝันแบบลอนดอนไลฟ์สไตล์ ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าโรดโชว์ที่ประเทศไทยปีละหนึ่งครั้งเป็นอย่างน้อย
ไทรมั่น ลัญฉน์ดี ประธานกรรมการบริหารคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเข้ามาทำตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเป็นที่น่าสนใจ เนื่องจากศักยภาพและกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวไทยมีมาก อีกทั้งลอนดอนถือเป็นอันดับหนึ่งในการตัดสินใจซื้อของคนไทย แม้ในปัจจุบันประเทศที่มีกำลังซื้อหลักจะเป็น จีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ แต่อนาคตคาดว่าจะมีปริมาณการซื้อจากไทยเข้าไปกินส่วนแบ่งตลาดนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน โดยลูกค้าชาวไทยเน้นการซื้อเพื่อการอยู่อาศัยเป็นอันดับแรก ในส่วนของการซื้อเพื่อลงทุนมีการคาดการณ์ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 17% ต่อปี สำหรับทำเลที่ตั้งที่เป็นที่นิยมของลูกค้าชาวไทยเน้นพื้นที่โซนใจกลางเมือง ใกล้แหล่งสาธารณูปโภค และสัมผัสกับการใช้ชีวิตในลอนดอนที่พร้อมสรรพ ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าการจัดงานเสนอขายอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศให้กับลูกค้าชาวไทยอีกอย่างน้อย 4 ครั้งในปี 2558 โดยเน้นที่อสังหาริมทรัพย์จากประเทศอังกฤษ และตั้งเป้ายอดขายเฉลี่ยที่ 10 ล้านปอนด์ต่อปี และอัตราเติบโตอีก 10% ต่อปี
“ภายในงานมีผู้สนใจอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากกว่าครั้งที่ผ่านมา ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจมากของบริษัท เนื่องจากเราคัดเลือกมาเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุด เน้นที่ทำเลที่ตั้ง และบรรยากาศความเป็นเมืองลอนดอนที่ลูกค้าจะได้รับ ทั้งวิวบรรยากาศแม่น้ำเทมส์ ความงดงามของลอนดอนบริดส์ อีกทั้งยังเสนอขายยูนิตที่ดีที่สุดก่อนใคร ในระดับชั้นความสูงที่เป็นที่ต้องการของคนไทย จากการตอบรับที่ดีนี้ทำให้บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายตลาดกลุ่มลูกค้าชาวไทย เน้นเสนอขายสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อให้ประเทศไทยเป็นตลาดหลักของเราในเอเชียในอนาคต” พอล เบนเน็ตต์ กล่าวทิ้งท้าย