"บลจ.ฟินันซ่า ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว โดยรัฐบาลมีการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ 3.6 แสนล้านบาท โดยเป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาที่ประชุมสภาผู้ว่าการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก (World Bank) ประจำปี 2557 ที่ผ่านมา ได้มีการปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP โลกในปี 2558 ทำให้มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวลง การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงในระดับต่ำและอัตราผลตอบแทนที่ดีจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการใช้เป็นแหล่งพักเงินระยะสั้น อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาอันใกล้แต่คาดว่าทิศทางของอัตราดอกเบี้ยจะยังอยู่ในช่วงขาขึ้นในปี 2558 สถานการณ์เช่นนี้การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากสามารถรองรับความเสี่ยงจากการเสียโอกาสลงทุนในภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นได้
บลจ.ฟินันซ่า จึงออกเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ 3 เดือน ชื่อกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 3เดือน1 (FAM FIPR3M1) โดยมีอัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 2.70% ต่อปี เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 17 – 27 ตุลาคม 57 ซึ่ง เป็นกองทุนที่โรลโอเวอร์มาจากการขายกองทุนก่อนหน้านี้ เป็นกองทุน Specific fund
โดยกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 3เดือน1 (FAM FIPR3M1) จะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงินและ/หรือ เงินฝากของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD, CNY, HKD, EUR, JPY กับธนาคาร BOC (Macau), Standard Chartered Bank (Hong Kong), ธนาคาร CIMB Niaga (Indonesia), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตั๋วแลกเงิน บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (BBB), ตั๋วแลกเงิน บมจ.เอเซียเสริมกิจ ลีสซิ่ง(BBB+), ตั๋วแลกเงิน บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (BBB+), บจ.บีเอสแอล ลีสซิ่ง(BBB) หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB ขึ้นไป, ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น