เผย ผู้หญิงเสี่ยง 'อัมพฤกษ์ -อัมพาต' เฉียบพลัน

จันทร์ ๒๐ ตุลาคม ๒๐๑๔ ๑๓:๑๘
สคร.7 เผย 1 ใน 5 ของผู้หญิงป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง แนะหมั่นสำรวจร่างกาย หากพบความผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อลดอัตราพิการหรือเสียชีวิตได้

นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผอ.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.อุบลราชธานี (สคร.7) กล่าวว่า วันที่ 29 ตุลาคมของทุกปี องค์การอนามัยโลกกำหนดให้เป็นวันอัมพฤกษ์ อัมพาตโลก เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวในการป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โดยมีคำขวัญในการรณรงค์ คือ“โรคหลอดเลือดสมอง: เพราะฉันเป็นผู้หญิง... (เสี่ยง)” ซึ่งประเทศไทยพบผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มผู้ป่วยรายใหม่ สูงขึ้นทุกปี พบ 1 ใน 5 ของผู้หญิงป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง โดยเฉพาะผู้หญิงอายุ 85 ปีขึ้นไป แต่หากประชาชนรู้จักวิธีการดูแลตนเองและหมั่นสำรวจความผิด ปกติของร่างกายอยู่เสมอ จะสามารถป้องกันและลดความรุนแรงของโรคดังกล่าวได้

นพ.ศรายุธ กล่าวต่อว่า โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หรือโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต คือภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้มีอาการของแขน ขาหรือหน้า ซีกใดซีกหนึ่งชา อ่อนแรง เคลื่อนไหวลำบาก เคลื่อนไหวไม่ได้อย่างทันทีทันใด เป็นนาทีหรือเป็นชั่วโมง ถ้าผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องรวดเร็วตั้งแต่แรกจะสามารถลดอัตรา ตายหรือความพิการ และสามารถกลับมาใช้ชีวิตแบบคนปกติได้ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ ภาวะความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง มีประวัติญาติสายตรงเจ็บป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ขาดการออกกำลังกายที่เหมาะสม ภาวะน้ำหนักเกิน สูบบุหรี่ และภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการเตือนที่สำคัญ คือ สมองขาดเลือดชั่วคราว โดยพบผู้ที่มีอาการสมองขาดเลือดชั่วคราว 1 ใน 5 คน จะมีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ภายในระยะเวลา 3 เดือน และส่วนใหญ่จะพบใน 2-3 วันแรก หลังจากมีอาการสมองขาดเลือดชั่วคราว สำหรับผู้ป่วยที่หลอดเลือดสมองแตกนั้น อาจมีอาการปวดศีรษะเฉียบพลัน อาเจียน ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจมีอาการซึม หมดสติและเสียชีวิตได้

ดังนั้น หากพบว่าตนเองมีอาการอ่อนแรงของหน้า แขน ขา ซึ่งจะเป็นซีกเดียวของร่างกาย สับสน พูดลำบาก พูดไม่รู้เรื่อง มีปัญหาการพูด การมองเห็นลดลง 1 หรือทั้ง 2 ข้าง และมีปัญหาการเดิน มึนงง สูญเสียสมดุลของการเดิน โดยอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว สิ่งที่สำคัญคือผู้ป่วยต้องสังเกตความผิดปกติของร่างกาย หากพบอาการข้างต้น ต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วนที่สุดภายใน 3 ชั่วโมง จะสามารถช่วยรักษาชีวิตและฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติหรือใกล้เคียงได้มากที่สุด

สำหรับแนวทางเพื่อลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง คือ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด ไขมันสูง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนัก จำกัดการบริโภคเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ รวมถึงตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง ในกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยงหรือผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่แล้ว ต้องรักษาและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ หากผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองได้เข้ารับการ รักษาพยาบาลอย่างรวดเร็ว และได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและความ เสี่ยงจากความพิการลงได้ หากประชาชนมีข้อสงสัยถึงอาการของโรคและวิธีปฏิบัติ สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข โทร.1422 .นพ.ศรายุธ กล่าวปิดท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ